ผิวเหลืองเกิดจากอะไรวิธีแก้

12 การดู

ผิวเหลืองอาจเป็นสัญญาณของภาวะดีซ่าน ซึ่งเกิดจากการสะสมของบิลิรูบินในร่างกาย พบแพทย์ทันทีหากผิวหรือตาขาวเหลือง อุจจาระซีด ปัสสาวะเข้ม หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นสัญญาณของโรคตับหรือถุงน้ำดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผิวเหลือง…สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ผิวเหลือง อาจเป็นเพียงอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หากคุณสังเกตเห็นผิวของคุณหรือคนรอบข้างมีสีเหลืองผิดปกติ ควรรีบหาคำปรึกษาจากแพทย์โดยทันที เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของภาวะดีซ่าน (Jaundice) ซึ่งมีสาเหตุและวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันไป

สาเหตุของผิวเหลือง (ดีซ่าน):

ผิวเหลืองหรือดีซ่าน เกิดจากการสะสมของสารสีเหลืองที่เรียกว่า “บิลิรูบิน” (Bilirubin) ในร่างกาย บิลิรูบินเป็นผลพลอยได้จากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง โดยปกติร่างกายจะกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากระบบการกำจัดบิลิรูบินทำงานผิดปกติ บิลิรูบินจะสะสมอยู่ในเลือดและส่งผลให้ผิวและตาขาวมีสีเหลือง

สาเหตุหลักของการสะสมบิลิรูบินมีหลายประการ ได้แก่:

  • โรคตับ: โรคตับอักเสบไวรัส โรคตับแข็ง มะเร็งตับ และโรคตับอื่นๆ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับไม่สามารถกรองและกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โรคถุงน้ำดี: หินในถุงน้ำดี การอักเสบของถุงน้ำดี และภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดี สามารถรบกวนการไหลเวียนของน้ำดี ส่งผลให้บิลิรูบินสะสม
  • ภาวะโลหิตจางแบบทำลายตัวเอง (Hemolytic anemia): เม็ดเลือดแดงถูกทำลายเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดบิลิรูบินปริมาณมาก
  • การอุดตันของท่อน้ำดี: เนื้องอก หิน หรือการอักเสบอาจไปอุดตันท่อน้ำดี ทำให้บิลิรูบินไม่สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้
  • โรคทางพันธุกรรม: บางโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับการเผาผลาญบิลิรูบิน อาจทำให้เกิดดีซ่านได้ตั้งแต่แรกเกิดหรือในช่วงวัยเด็ก
  • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด: ยารักษาโรคบางชนิดอาจทำให้เกิดดีซ่านได้เป็นผลข้างเคียง

วิธีแก้ไข:

สำคัญที่สุด: การรักษาผิวเหลืองนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง การวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และอาจทำการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น อัลตร้าซาวนด์ CT scan หรือ MRI เพื่อหาสาเหตุของผิวเหลือง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

การรักษามักจะมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขสาเหตุของปัญหา เช่น การรักษาโรคตับ การผ่าตัดเอาหินในถุงน้ำดีออก หรือการใช้ยาเพื่อควบคุมภาวะโลหิตจาง

สิ่งที่ควรทำเมื่อสังเกตเห็นผิวเหลือง:

  • พบแพทย์โดยทันที: อย่าปล่อยทิ้งไว้ การวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนได้
  • แจ้งประวัติสุขภาพ: แจ้งแพทย์ถึงประวัติการเจ็บป่วย การใช้ยา และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ระวังอาการอื่นๆ ร่วมด้วย: เช่น ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ไข้ และอ่อนเพลีย อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงความรุนแรงของโรค

ข้อควรระวัง: บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าพยายามรักษาด้วยตัวเอง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ผิวเหลือง อาจเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ การใส่ใจสุขภาพและการพบแพทย์อย่างทันท่วงที จะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกวิธีและมีโอกาสหายป่วยได้อย่างรวดเร็ว