ผิวกายติดสารรักษายังไง

1 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

ฟื้นฟูผิวที่เคยติดสารด้วยการเน้นบำรุงเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์, ไฮยาลูรอนิกแอซิด หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการระคายเคืองและความแห้งกร้าน หลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวในช่วงแรก และอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผิวกายติดสาร: กู้ผิวพังให้ปังอีกครั้งด้วยการดูแลที่อ่อนโยน

การดูแลผิวหน้าเป็นเรื่องที่เราใส่ใจกันอยู่แล้ว แต่หลายครั้งที่เราละเลยผิวกาย ทั้งที่จริงแล้วผิวกายก็บอบบางและสามารถ “ติดสาร” ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสเตียรอยด์ที่มักแฝงตัวอยู่ในครีมทาผิวขาว ครีมแก้ผื่น หรือครีมลดรอยแตกลาย เมื่อใช้ไปนานๆ ผิวจะบางลง อ่อนแอ แพ้ง่าย และเกิดอาการแสบร้อน ผิวหนังอักเสบ หรือมีผื่นขึ้นเมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น แล้วเราจะกู้ผิวกายที่ติดสารกลับมาได้อย่างไร?

เข้าใจก่อนว่า “ติดสาร” หมายถึงอะไร?

ผิวกายที่ “ติดสาร” มักหมายถึงผิวที่เคยสัมผัสกับสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ทำให้โครงสร้างผิวเปลี่ยนแปลงไป สเตียรอยด์จะกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนัง ทำให้ผิวดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหยุดใช้ ผิวจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ ทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ สารอื่นๆ เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน ก็สามารถทำให้ผิวเกิดอาการแพ้และระคายเคืองเรื้อรังได้เช่นกัน

กู้ผิวพังให้ปัง: ขั้นตอนการดูแลผิวกายติดสาร

การฟื้นฟูผิวกายที่ติดสารต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจในการดูแลผิวอย่างอ่อนโยน เน้นการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง

1. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นปัญหา: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด หากสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ใดเป็นต้นเหตุ ให้หยุดใช้ทันที แม้ว่าอาการจะแย่ลงในช่วงแรก แต่อย่าท้อแท้ เพราะเป็นสัญญาณว่าผิวหนังกำลังขับสารพิษออกมา

2. สร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง: เน้นการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เช่น:

  • เซราไมด์ (Ceramides): เป็นไขมันที่พบตามธรรมชาติในผิวหนัง ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  • ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวอิ่มฟูและลดความแห้งกร้าน
  • กลีเซอรีน (Glycerin): สารกักเก็บความชุ่มชื้นที่ช่วยดึงน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิว
  • สารสกัดจากธรรมชาติ: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยลดการระคายเคืองและให้ความชุ่มชื้น เช่น ว่านหางจระเข้ ชาเขียว หรือคาโมมายล์

3. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน: หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีความเป็นด่างสูง (pH > 7) และสารทำความสะอาดที่รุนแรง (เช่น SLS, SLES) เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน (pH 5.5-6) และมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์

4. หลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือผลัดเซลล์ผิวในช่วงแรก: การขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจะยิ่งทำให้ผิวบางลงและระคายเคืองมากขึ้น ควรงดเว้นไปก่อนจนกว่าผิวจะแข็งแรงขึ้น

5. ปกป้องผิวจากแสงแดด: แสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวที่อ่อนแอ ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปและ PA+++ หรือสูงกว่า เป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด และควรเลือกครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์

6. ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ: ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผิว ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำอย่างน้อยวันละสองครั้ง หลังอาบน้ำ และก่อนนอน

7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์: ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด หากไม่แน่ใจควรหลีกเลี่ยง
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์: สารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • การเกา: การเกาจะยิ่งทำให้ผิวอักเสบและติดเชื้อได้
  • การสัมผัสกับสารเคมีที่ระคายเคือง: เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน
  • ความเครียด: ความเครียดอาจทำให้อาการแย่ลงได้

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผัก ผลไม้ และปลาที่มีไขมันดี
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง

การฟื้นฟูผิวกายที่ติดสารต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ด้วยการดูแลที่ถูกต้องและอ่อนโยน ผิวของคุณจะกลับมาแข็งแรงและสวยงามได้อีกครั้ง อย่าท้อแท้และให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ!