SPF 30 กับ 50 ต่างกันยังไง

5 การดู

ครีมกันแดด SPF 30 ปกป้องผิวจากแสงแดดได้นานกว่าผิวที่ไม่ได้ทาครีม 30 เท่า ส่วน SPF 50 ปกป้องได้นานกว่า 50 เท่า แม้ค่า SPF จะต่างกัน แต่ทั้งสองสูตรให้การปกป้องที่ดีเยี่ยม เลือกใช้ตามความเหมาะสมของกิจกรรมกลางแจ้งและสภาพผิว ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

SPF 30 กับ SPF 50: เลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ

แดดเมืองไทยแรงแค่ไหน คงไม่ต้องบอกก็รู้! ครีมกันแดดจึงเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดด หลายคนอาจสับสนระหว่างครีมกันแดด SPF 30 กับ SPF 50 ว่าต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน บทความนี้จะไขข้อข้องใจให้ชัดเจน

ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยคือ SPF 30 ปกป้องผิวได้นานกว่าผิวที่ไม่ได้ทา 30 เท่า และ SPF 50 ปกป้องได้นานกว่า 50 เท่า ความจริงแล้ว ค่า SPF บอกถึง ระดับการป้องกันรังสี UVB ที่ทำให้ผิวไหม้เกรียม ไม่ใช่ระยะเวลาในการปกป้อง ตัวเลขที่สูงขึ้นหมายถึงการกรองรังสี UVB ได้มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ได้นานกว่าหรือป้องกันได้สมบูรณ์แบบ

ตัวอย่างเช่น หากผิวของคุณไหม้เกรียมภายใต้แสงแดดโดยตรงภายใน 10 นาที การทาครีมกันแดด SPF 30 จะช่วยยืดระยะเวลาออกไปเป็น 300 นาที (10 นาที x 30) ส่วน SPF 50 จะยืดระยะเวลาออกไปเป็น 500 นาที (10 นาที x 50) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการทา ความสม่ำเสมอของการทา และกิจกรรมกลางแจ้งด้วย

ดังนั้น SPF 30 กับ SPF 50 ต่างกันอย่างไรอย่างแท้จริง?

ความแตกต่างหลักอยู่ที่ ระดับการปกป้องรังสี UVB SPF 50 กรองรังสี UVB ได้มากกว่า SPF 30 แต่ความแตกต่างนี้ไม่ใช่แบบทวีคูณ SPF 50 ป้องกันได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับ SPF 30 ซึ่งอาจไม่คุ้มค่ากับราคาที่สูงขึ้นเสมอไป

แล้วควรเลือก SPF 30 หรือ SPF 50 ดี?

การเลือก SPF ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:

  • กิจกรรมกลางแจ้ง: หากทำกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ หรืออยู่กลางแดดจัด SPF 50 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากการปกป้องที่เหนือกว่า
  • สภาพผิว: ผิวบอบบางแพ้ง่ายอาจต้องการ SPF ที่สูงกว่าเพื่อการปกป้องที่ดีขึ้น แต่ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว
  • งบประมาณ: SPF 30 มักจะมีราคาที่ย่อมเยากว่า และยังให้การปกป้องที่ยอดเยี่ยมหากทาอย่างสม่ำเสมอและทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืม:

ไม่ว่าจะเลือก SPF ใด ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15 นาทีก่อนออกแดด ทาให้ทั่วถึง และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก อย่าลืมเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ และอย่าลืมว่าครีมกันแดดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการปกป้องผิวจากแสงแดด การสวมหมวก แว่นกันแดด และหลีกเลี่ยงการอยู่ในแดดจัด เป็นวิธีการป้องกันผิวที่ดีอีกวิธีหนึ่ง

สุดท้ายนี้ การเลือก SPF 30 หรือ 50 จึงขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล แต่การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดด และช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีอยู่เสมอ