อุบัติเหตุแบบไหนเบิกประกันไม่ได้

อุบัติเหตุแบบไหน… เบิกประกันไม่ได้? อย่าเสียใจภายหลัง! เช็กให้ชัวร์ก่อนเกิดเหตุ

ประกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว ประกันอุบัติเหตุไม่ได้คุ้มครองทุกกรณี บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเงื่อนไขการเบิกประกัน และหลีกเลี่ยงความผิดหวังในภายหลัง

1. อาการบาดเจ็บจากการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ: นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การเคลมประกันไม่สำเร็จ อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกายตามอายุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคเกี่ยวกับข้อต่างๆ หรืออาการปวดหลังเรื้อรังที่เกิดจากการทำงานท่าทางไม่ถูกต้อง โดยไม่มีสาเหตุจากอุบัติเหตุภายนอกที่ชัดเจน บริษัทประกันมักจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่าย แม้จะมีการไปพบแพทย์และรักษาตัวก็ตาม ยกเว้นกรณีที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำเติมอาการเดิมให้รุนแรงขึ้น ซึ่งต้องมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ดังกล่าว

2. การเจ็บป่วยโดยไม่มีสาเหตุจากอุบัติเหตุภายนอก: การเป็นลมหมดสติ การล้มป่วยเองโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น โรคลมชักกำเริบ โรคหัวใจ หรือภาวะอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ ประกันอุบัติเหตุจะไม่คุ้มครองในกรณีนี้ เพราะประกันอุบัติเหตุเน้นความคุ้มครองจาก “อุบัติเหตุ” โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากเหตุการณ์ภายนอกร่างกาย

3. กิจกรรมเสี่ยงสูงที่ไม่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์: หลายกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่คุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาเสี่ยงสูง การปีนเขา การดำน้ำลึก หรือกิจกรรมผาดโผนอื่นๆ หากคุณมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ และเกิดอุบัติเหตุขึ้น โอกาสที่จะเบิกประกันได้มีน้อยมาก ควรตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนทำประกัน

4. การกระทำที่จงใจหรือการละเลย: การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่เกิดจากการกระทำที่จงใจ เช่น การทำร้ายตัวเอง หรือการละเลยอย่างร้ายแรง เช่น การไม่สวมหมวกกันน็อคขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ก็อาจทำให้การเคลมประกันไม่สำเร็จ เพราะถือเป็นความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันควรจะป้องกันได้

5. การดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพสารเสพติด: การเกิดอุบัติเหตุขณะเมาสุราหรือเสพสารเสพติด บริษัทประกันมักจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ และอาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ก่อนทำประกัน ควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ละเอียด สอบถามข้อมูลจากตัวแทนประกันอย่างชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจความคุ้มครอง และเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตและความเสี่ยงของตนเอง อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ กลายเป็นความเสียใจภายหลัง