น้ําตาลในเลือด เรียกว่าอะไร

9 การดู
ระดับน้ำตาลในเลือดเรียกว่า ระดับกลูโคสในเลือด หรือ ค่า血糖值 (ในภาษาจีน) แพทย์มักใช้หน่วยมิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) หรือมิลลิโมลต่อลิตร (mmol/L) ในการวัด การตรวจวัดนี้สำคัญต่อการวินิจฉัยโรคเบาหวานและภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาล
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำตาลในเลือด คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญต่อสุขภาพของเรา?

ระดับน้ำตาลในเลือด หรือที่รู้จักกันในชื่อ ระดับกลูโคสในเลือด หรือ ค่า血糖值 (ในภาษาจีน) เป็นตัวบ่งชี้ปริมาณน้ำตาลกลูโคสที่มีอยู่ในกระแสเลือดของเรา กลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอาหารที่เรารับประทานให้เป็นกลูโคส และนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเซลล์ต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การหายใจ และการทำงานของอวัยวะต่างๆ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวม

แพทย์มักจะใช้วิธีการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อประเมินสุขภาพและวินิจฉัยโรค โดยทั่วไปจะใช้หน่วยมิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) หรือมิลลิโมลต่อลิตร (mmol/L) การแปลงหน่วยทั้งสองนี้ทำได้โดยการคูณค่า mmol/L ด้วย 18 เพื่อให้ได้ค่า mg/dL หรือหารค่า mg/dL ด้วย 18 เพื่อให้ได้ค่า mmol/L การเลือกใช้หน่วยใดหน่วยหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับระบบการแพทย์ของแต่ละประเทศหรือสถาบัน

ระดับน้ำตาลในเลือดที่ปกติจะแตกต่างกันไปตามเวลา เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารข้ามคืน (Fasting Blood Glucose หรือ FBG) ควรอยู่ในช่วง 70-100 mg/dL หรือ 3.9-5.6 mmol/L ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (Postprandial Blood Glucose หรือ PPG) จะสูงขึ้นชั่วคราวแต่ควรกลับสู่ระดับปกติภายใน 2 ชั่วโมง หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานหรือภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญน้ำตาล

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นส่วนสำคัญในการวินิจฉัยโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคเบาหวานมีหลายประเภท แต่ประเภทที่พบบ่อย ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ และเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งร่างกายต้านทานต่ออินซูลิน อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยช่วยให้กลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน

นอกจากโรคเบาหวานแล้ว การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดก็ยังมีความสำคัญในการวินิจฉัยโรคและภาวะอื่นๆ เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ หรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ซึ่งร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการตรวจสุขภาพอื่นๆ จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ การตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด จึงเป็นก้าวแรกสู่การมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงอย่างยั่งยืน