ภูมิคุ้มกันแบบรับมา มีอะไรบ้าง

9 การดู

ภูมิคุ้มกันรับมา คือการได้รับแอนติบอดีสำเร็จรูปจากภายนอก ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคเฉพาะอย่างทันที เช่น การได้รับแอนติบอดีจากน้ำนมแม่ หรือการฉีดเซรุ่มป้องกันพิษสัตว์กัดต่อย เช่น งูพิษ แมงป่อง หรือเซรุ่มป้องกันโรคบาดทะยัก ซึ่งให้การป้องกันระยะสั้น ต่างจากภูมิคุ้มกันสร้างเองที่เกิดจากการสร้างแอนติบอดีในร่างกายเอง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภูมิคุ้มกันแบบรับมา: เกราะป้องกันจากภายนอก

ภูมิคุ้มกันแบบรับมา (Passive immunity) เป็นกลไกการป้องกันโรคที่ร่างกายได้รับแอนติบอดีสำเร็จรูปจากภายนอก แตกต่างจากภูมิคุ้มกันแบบสร้างเอง (Active immunity) ที่ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นเอง การได้รับแอนติบอดีสำเร็จรูปนี้ทำให้ร่างกายมีการป้องกันโรคทันที แต่การป้องกันจะไม่ยั่งยืน เนื่องจากร่างกายไม่ได้สร้างแอนติบอดีขึ้นเอง

แหล่งที่มาของแอนติบอดีรับมาหลากหลาย รวมถึง:

  • น้ำนมแม่: สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ คือ น้ำนมแม่ แอนติบอดีในน้ำนมแม่ (เช่น IgG) จะให้การป้องกันต่อทารกในช่วงแรกของชีวิต ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่พัฒนาเต็มที่ การรับแอนติบอดีจากน้ำนมแม่ถือเป็นการป้องกันแบบรับมาที่ทรงพลังและสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารก

  • เซรุ่มป้องกันพิษสัตว์กัดต่อย: เมื่อถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย การฉีดเซรุ่มเป็นวิธีการสำคัญในการให้แอนติบอดีที่จำเพาะต่อพิษของสัตว์นั้นๆ อย่างรวดเร็ว เซรุ่มนี้จะช่วยลดอาการร้ายแรงจากพิษและช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที เซรุ่มที่ใช้ในการรักษาจะมีส่วนประกอบของแอนติบอดีที่ได้จากสัตว์อื่น เช่น ม้า ซึ่งได้รับการฝึกฝนและผลิตเพื่อต่อต้านพิษสัตว์กัดต่อย แอนติบอดีเหล่านี้จะจับกับพิษสัตว์และทำให้พิษสัตว์ไม่สามารถทำร้ายร่างกายเราได้

  • เซรุ่มป้องกันโรคอื่นๆ: นอกเหนือจากพิษสัตว์กัดต่อย ยังมีเซรุ่มป้องกันโรคอื่นๆ เช่น โรคบาดทะยัก การใช้เซรุ่มเหล่านี้จะให้การป้องกันอย่างรวดเร็ว แต่การป้องกันจะไม่ยั่งยืน ผู้ที่ได้รับเซรุ่มป้องกันโรคจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมในภายหลังเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันแบบสร้างเองที่ยั่งยืน

  • การถ่ายเลือด: ในบางกรณี การถ่ายเลือดอาจมีส่วนช่วยในการเพิ่มแอนติบอดีในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายเลือดไม่ใช่แหล่งหลักของภูมิคุ้มกันแบบรับมา

ข้อดีและข้อจำกัดของภูมิคุ้มกันแบบรับมา:

ข้อดี: ให้การป้องกันอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับพิษสัตว์กัดต่อยหรืออยู่ในสถานการณ์เร่งด่วนได้

ข้อจำกัด: การป้องกันไม่ยั่งยืน อาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดเซรุ่ม เช่น อาการแพ้ และบางครั้งอาจไม่สามารถหาแอนติบอดีที่จำเพาะต่อโรคนั้นๆ ได้

สรุปได้ว่า ภูมิคุ้มกันแบบรับมาเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันโรค โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่ควรละเลยภูมิคุ้มกันแบบสร้างเอง การผสมผสานการได้รับแอนติบอดีจากภายนอกและการสร้างแอนติบอดีภายในร่างกายเองจะช่วยให้เรามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและสามารถต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ