อาการผิดปกติของระบบน้ําในโพรงสมองและไขสันหลังมีอะไรบ้าง

1 การดู

ภาวะสมองบวมน้ำชนิดเฉพาะที่ (Focal cerebral edema) เกิดจากการบวมของเนื้อสมองบริเวณเฉพาะจุด อาจเกิดจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ การติดเชื้อ หรือเนื้องอก ส่งผลให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น อาการที่พบได้ คือ ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน และระดับสติเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความดันในกะโหลกศีรษะและป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการผิดปกติของระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง: มากกว่าแค่ “สมองบวมน้ำเฉพาะที่” ที่ควรรู้

ระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง (Cerebrospinal Fluid – CSF) เปรียบเสมือนระบบหล่อเลี้ยงและปกป้องสมองและไขสันหลังของเรา ทำหน้าที่นำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์สมอง กำจัดของเสีย และช่วยลดแรงกระแทก การทำงานที่ผิดปกติของระบบนี้จึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต

บทความนี้จะเจาะลึกอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง โดยขยายขอบเขตให้กว้างกว่าภาวะ “สมองบวมน้ำชนิดเฉพาะที่ (Focal cerebral edema)” ที่กล่าวถึงในเบื้องต้น เพื่อให้เข้าใจถึงภาพรวมของความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และความสำคัญของการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

ทำความเข้าใจระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง (CSF) ก่อน

CSF ผลิตจาก choroid plexus ในโพรงสมอง (ventricles) ไหลเวียนผ่านโพรงสมองและช่องว่างรอบสมองและไขสันหลัง ก่อนที่จะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือด ระบบการไหลเวียนนี้ต้องเป็นไปอย่างราบรื่น หากเกิดการอุดตัน การผลิตมากเกินไป หรือการดูดซึมที่ผิดปกติ จะนำไปสู่ความผิดปกติได้

อาการผิดปกติที่อาจบ่งชี้ถึงปัญหาในระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง:

นอกเหนือจากอาการที่กล่าวถึงในภาวะสมองบวมน้ำเฉพาะที่ (ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน สติเปลี่ยนแปลง) ยังมีอาการอื่นๆ ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติในระบบ CSF ดังนี้:

  • ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือมีลักษณะเฉพาะ: การปวดศีรษะที่แย่ลงเมื่อลุกขึ้นยืน หรือดีขึ้นเมื่อนอนราบ อาจบ่งชี้ถึงการรั่วไหลของ CSF
  • การมองเห็นผิดปกติ: มองเห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว หรือสูญเสียการมองเห็นชั่วขณะ อาจเกี่ยวข้องกับความดันในกะโหลกศีรษะที่เพิ่มขึ้น
  • คลื่นไส้ อาเจียน: อาการเหล่านี้มักเป็นสัญญาณของความดันในกะโหลกศีรษะสูง
  • อาการทางระบบประสาท:
    • เดินเซ: อาจเกิดจากความผิดปกติในการทรงตัวที่เกี่ยวข้องกับสมองส่วนซีรีเบลลัม (cerebellum)
    • อ่อนแรง: อ่อนแรงแขนขา อาจบ่งชี้ถึงการกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง
    • ชา หรือรู้สึกซ่า: บริเวณแขนขา หรือลำตัว อาจเกิดจากการกดทับเส้นประสาท
    • การควบคุมปัสสาวะ อุจจาระผิดปกติ: อาจเกิดจากความผิดปกติของไขสันหลังส่วนล่าง
    • ชัก: ในกรณีที่รุนแรง ความดันในกะโหลกศีรษะสูงอาจกระตุ้นให้เกิดอาการชัก
  • อาการในเด็กเล็ก:
    • ศีรษะโตผิดปกติ: ในเด็กเล็ก กระดูกกะโหลกศีรษะยังไม่เชื่อมติดกัน ความดันในกะโหลกศีรษะสูงอาจทำให้ศีรษะขยายใหญ่ขึ้น
    • กระหม่อมโป่ง: กระหม่อม (บริเวณที่กระดูกกะโหลกศีรษะยังไม่เชื่อมติดกัน) อาจโป่งนูนขึ้น
    • ร้องกวนผิดปกติ: เด็กร้องกวนโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
    • ง่วงซึม: ซึม ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า
  • อาการอื่นๆ:
    • เวียนศีรษะ: บ้านหมุน หรือรู้สึกโคลงเคลง
    • ปัญหาการได้ยิน: หูอื้อ หรือสูญเสียการได้ยิน

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดความผิดปกติในระบบ CSF:

ความผิดปกติของระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลังอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • การบาดเจ็บที่ศีรษะ: ทำให้เกิดเลือดออกในสมอง หรือการอุดตันของทางเดิน CSF
  • การติดเชื้อ: เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) หรือสมองอักเสบ (Encephalitis)
  • เนื้องอก: เนื้องอกในสมองหรือไขสันหลัง อาจกดทับทางเดิน CSF
  • ภาวะ Hydrocephalus (ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง): อาจเกิดจากความผิดปกติในการไหลเวียน หรือการดูดซึม CSF
  • ภาวะ Pseudotumor Cerebri (ความดันในกะโหลกศีรษะสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ): มักพบในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน
  • การรั่วไหลของ CSF: อาจเกิดจากการบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด

การวินิจฉัยและการรักษา:

หากสงสัยว่ามีความผิดปกติในระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย การวินิจฉัยอาจรวมถึง:

  • การตรวจร่างกายทางระบบประสาท: เพื่อประเมินการทำงานของระบบประสาท
  • การตรวจภาพถ่ายสมอง: เช่น CT scan หรือ MRI scan เพื่อดูโครงสร้างของสมองและทางเดิน CSF
  • Lumbar puncture (การเจาะหลัง): เพื่อเก็บตัวอย่าง CSF ไปตรวจวิเคราะห์
  • การตรวจวัดความดัน CSF: เพื่อวัดความดันของ CSF

การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของความผิดปกติ ตัวเลือกการรักษาอาจรวมถึง:

  • ยา: เพื่อลดความดันในกะโหลกศีรษะ หรือควบคุมอาการอื่นๆ
  • การผ่าตัด: เพื่อระบาย CSF ที่เกิน หรือแก้ไขการอุดตันของทางเดิน CSF
  • Shunt: การใส่ท่อระบาย CSF จากโพรงสมองไปยังช่องท้อง

สรุป:

อาการผิดปกติของระบบน้ำในโพรงสมองและไขสันหลังมีความหลากหลาย และอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพ การสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด และปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และรักษาคุณภาพชีวิตที่ดี