อาการหลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะมีอะไรบ้าง

2 การดู

หลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ อาจรู้สึกแสบขัด ปวดท่อปัสสาวะ หรือปัสสาวะเป็นสีชมพูจางๆ ซึ่งเป็นอาการปกติและมักหายเองภายใน 2-3 วัน อาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยเล็กน้อยในช่วงวันแรกๆ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ: สิ่งที่ควรรู้และวิธีดูแลตัวเอง

การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นภายในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะได้อย่างชัดเจน เพื่อหาสาเหตุของอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง ถึงแม้ว่าจะเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน แต่ผู้ป่วยหลายท่านอาจกังวลเกี่ยวกับอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการตรวจ

บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ และแนวทางการดูแลตัวเองเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ:

อาการที่เกิดขึ้นหลังการส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาการเหล่านี้มักไม่รุนแรงและหายได้เองภายในระยะเวลาสั้นๆ อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • แสบขัดขณะปัสสาวะ: อาการนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการระคายเคืองของท่อปัสสาวะขณะสอดกล้อง อาจรู้สึกเจ็บแปลบ หรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • ปวดท่อปัสสาวะ: อาจรู้สึกปวดเมื่อย หรือตึงบริเวณท่อปัสสาวะ ซึ่งมักจะหายได้เอง
  • ปัสสาวะเป็นสีชมพูจางๆ หรือมีเลือดปนเล็กน้อย: เกิดจากการเสียดสีของกล้องกับเยื่อบุทางเดินปัสสาวะ อาการนี้มักหายได้เองภายใน 2-3 วัน หากมีเลือดออกมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์
  • ปวดหน่วงท้องน้อย: อาจรู้สึกปวดตื้อๆ หรือหน่วงๆ บริเวณท้องน้อย โดยเฉพาะในช่วงวันแรกหลังการตรวจ
  • ปัสสาวะบ่อย: การส่องกล้องอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะ ทำให้รู้สึกปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ
  • รู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะ: อาจรู้สึกเหมือนปัสสาวะไม่สุด หรืออยากถ่ายปัสสาวะตลอดเวลา

ข้อควรปฏิบัติเพื่อดูแลตัวเองหลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ:

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับปัสสาวะ และลดความเข้มข้นของปัสสาวะ ช่วยลดอาการแสบขัด และป้องกันการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ: พยายามเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ เพื่อลดแรงดันในกระเพาะปัสสาวะ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ประคบอุ่นบริเวณท้องน้อย: หากมีอาการปวดหน่วงท้องน้อย สามารถประคบอุ่นเพื่อบรรเทาอาการ
  • รับประทานยาแก้ปวด: หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งจ่ายให้ได้
  • สังเกตอาการ: หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะเป็นเลือดมาก หรือไม่สามารถปัสสาวะได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ:

  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์: เครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง และทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • กิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก: ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือออกกำลังกายอย่างหนัก ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการตรวจ
  • การมีเพศสัมพันธ์: ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการแสบขัดจะหายดี

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์:

ถึงแม้ว่าอาการหลังส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที:

  • มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
  • ปวดท้องรุนแรง
  • ปัสสาวะเป็นเลือดมาก หรือมีลิ่มเลือด
  • ไม่สามารถปัสสาวะได้
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • อาการแสบขัดไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน

สรุป:

การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะเป็นการตรวจที่สำคัญในการวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการตรวจมักไม่รุนแรงและหายได้เอง การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม