เกล็ดเลือด ภาษาอังกฤษ ตัวย่อคืออะไร

2 การดู

เกล็ดเลือดสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด หากมีเกล็ดเลือดต่ำ อาจเสี่ยงต่อการมีเลือดออกง่าย ส่วนเกล็ดเลือดสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบและรับคำแนะนำ หากคุณกังวลเกี่ยวกับระดับเกล็ดเลือดของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เกล็ดเลือด: PLT ย่อมาจากอะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

เราคงเคยได้ยินคำว่า “เกล็ดเลือด” เวลาไปตรวจเลือด หรือได้ยินแพทย์พูดถึง แต่รู้หรือไม่ว่าตัวย่อภาษาอังกฤษของเกล็ดเลือดคืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อร่างกายของเรา?

เกล็ดเลือด ในภาษาอังกฤษคือ Platelets และตัวย่อที่ใช้กันทั่วไปในผลตรวจเลือดคือ PLT. เจ้าเซลล์เม็ดเล็กๆ รูปร่างไม่แน่นอนนี้ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งยวดในกระบวนการแข็งตัวของเลือด (blood clotting) เปรียบเสมือน “ปูนฉาบ” ที่คอยอุดรอยรั่วเมื่อเส้นเลือดของเราเกิดการฉีกขาด

ลองนึกภาพเวลาที่เราเกิดบาดแผล เลือดจะไหลออกมา แต่หลังจากนั้นไม่นาน เลือดก็จะหยุดไหลเอง นั่นเป็นเพราะเกล็ดเลือดทำงานร่วมกับโปรตีนในเลือด สร้างเป็นก้อนลิ่มเลือด ปิดปากแผล ป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป และช่วยให้ร่างกายเริ่มต้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย

อย่างไรก็ตาม ระดับเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำเกินไป ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

  • เกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia): หากจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ ร่างกายจะไม่สามารถสร้างลิ่มเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาไหล มีจ้ำเลือดตามตัว หรือเลือดออกตามไรฟัน ในกรณีที่รุนแรง อาจมีเลือดออกในอวัยวะภายในได้

  • เกล็ดเลือดสูง (Thrombocytosis): ในทางกลับกัน หากจำนวนเกล็ดเลือดสูงเกินไป ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่อาการต่างๆ เช่น เส้นเลือดอุดตันในขา หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

ดังนั้น การตรวจสอบระดับเกล็ดเลือดเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกง่าย มีจ้ำเลือด หรือมีอาการบ่งชี้ว่าอาจมีลิ่มเลือดอุดตัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกังวลเกี่ยวกับระดับเกล็ดเลือด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำที่เหมาะสม แพทย์จะสามารถประเมินสาเหตุ และวางแผนการรักษาที่ตรงกับภาวะสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย