โรคลมป่วง เกิดจากอะไร
อาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับอาเจียนและถ่ายเหลวอาจบ่งชี้ถึงภาวะลำไส้อักเสบเฉียบพลัน สาเหตุเกิดได้จากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนก็เป็นสาเหตุสำคัญ ควรพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
“ลมป่วง” กับลำไส้อักเสบเฉียบพลัน: ความเข้าใจผิดที่ต้องแก้ไข
คำว่า “ลมป่วง” เป็นคำที่เราคุ้นเคยกันดีในภาษาไทย ใช้บรรยายอาการปวดท้องรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ในทางการแพทย์แล้ว “ลมป่วง” ไม่ใช่ชื่อของโรคเฉพาะเจาะจง หากแต่เป็นคำที่ใช้เรียกอาการของโรคต่างๆ ที่มีอาการปวดท้องรุนแรงเป็นอาการเด่น
บ่อยครั้งที่เราได้ยินคนพูดถึง “ลมป่วง” ควบคู่ไปกับอาการอาเจียนและถ่ายเหลว ซึ่งอาการเหล่านี้มักเชื่อมโยงกับ ภาวะลำไส้อักเสบเฉียบพลัน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Acute Gastroenteritis ภาวะนี้คือการอักเสบของเยื่อบุทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น อาเจียน ท้องเสีย หรือมีไข้
สาเหตุที่แท้จริงของลำไส้อักเสบเฉียบพลัน นั้นมีความหลากหลาย แต่สาเหตุหลักๆ สามารถแบ่งออกได้ดังนี้:
- การติดเชื้อไวรัส: เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ Norovirus และ Rotavirus
- การติดเชื้อแบคทีเรีย: แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการลำไส้อักเสบเฉียบพลัน มักมาจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน เช่น Salmonella, E. coli หรือ Campylobacter
- การติดเชื้อปรสิต: ปรสิตบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบได้เช่นกัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีสุขอนามัยไม่ดี หรือเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี
- สารพิษจากอาหาร: การรับประทานอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน เช่น สารพิษจากเชื้อรา หรือสารเคมีบางชนิด ก็สามารถทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบได้
- ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร และนำไปสู่อาการลำไส้อักเสบได้
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
แม้ว่าอาการลำไส้อักเสบเฉียบพลันส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์โดยด่วน:
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
- มีไข้สูง
- อาเจียนอย่างรุนแรงจนไม่สามารถดื่มน้ำได้
- ถ่ายเหลวอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาวะขาดน้ำ (สังเกตได้จากอาการปัสสาวะน้อยลง ปากแห้ง ตาโหล)
- ปวดท้องรุนแรงมาก
- มีเลือดปนในอุจจาระ
การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการคล้าย “ลมป่วง”:
- พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
- จิบน้ำเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ: เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและแร่ธาตุจากอาการอาเจียนและถ่ายเหลว
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารมัน และอาหารที่มีกากใยสูง: เพื่อลดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร
- รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย: เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือซุป
- ล้างมือบ่อยๆ: เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ข้อควรระวัง:
การวินิจฉัยและรักษาอาการปวดท้องรุนแรงควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การซื้อยามารับประทานเอง อาจทำให้อาการแย่ลง หรือบดบังอาการของโรคที่ร้ายแรงกว่าได้
ดังนั้น หากคุณมีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียน และถ่ายเหลว อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นแค่ “ลมป่วง” แต่ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และไปพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
#การเกิด#สาเหตุ#โรคลมป่วงข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต