การส่องกล้องลําไส้ใหญ่มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

1 การดู

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ท้องอืดหลังทำ ซึ่งจะหายเองได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เลือดออกหรือลำไส้ทะลุนั้นพบได้น้อยมาก โดยเฉพาะหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังการส่องกล้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่: เข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างครอบคลุม

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจหาความผิดปกติในลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เช่น ติ่งเนื้อ (Polyps) ที่อาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ การตรวจนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้เข้ารับการตรวจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย (และมักไม่รุนแรง):

  • ท้องอืดและมีลมในท้อง: นี่เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ สาเหตุหลักมาจากการที่แพทย์จำเป็นต้องเป่าลมเข้าไปในลำไส้เพื่อขยายช่องทางในการสอดกล้อง ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายท้อง และมีลมในท้องมากผิดปกติ โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการตรวจ เมื่อร่างกายขับลมส่วนเกินออกไป

  • คลื่นไส้ อาเจียน: ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนหลังการส่องกล้อง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับยาระงับความรู้สึกที่ใช้ระหว่างการตรวจ อาการเหล่านี้มักไม่รุนแรงและหายไปเองเมื่อฤทธิ์ยาหมดลง การพักผ่อนให้เพียงพอและจิบน้ำขิงอุ่นๆ อาจช่วยบรรเทาอาการได้

  • ปวดท้องเล็กน้อย: อาการปวดท้องที่ไม่รุนแรงอาจเกิดขึ้นได้หลังการส่องกล้อง ซึ่งมักเป็นผลมาจากการบีบตัวของลำไส้เพื่อขับลมที่ค้างอยู่ อาการปวดมักจะบรรเทาลงได้ด้วยการพักผ่อนและการประคบร้อน

  • อ่อนเพลีย: ยาระงับความรู้สึกที่ใช้ระหว่างการตรวจอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนเพลียหลังการส่องกล้อง การพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากในวันนั้นจึงเป็นสิ่งที่แนะนำ

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (แต่ต้องระวัง):

  • เลือดออก: เลือดออกเล็กน้อยอาจเกิดขึ้นได้หลังการตัดติ่งเนื้อ (Polypectomy) หรือการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ (Biopsy) ไปตรวจทางพยาธิวิทยา โดยส่วนใหญ่เลือดจะหยุดเองได้ และมักไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หากมีเลือดออกในปริมาณมาก หรือมีเลือดออกต่อเนื่องนานกว่า 24 ชั่วโมง ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

  • ลำไส้ทะลุ: ภาวะลำไส้ทะลุ (Perforation) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อยมาก โดยเกิดขึ้นเมื่อกล้องส่องลำไส้ใหญ่หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ระหว่างการตรวจ ทำให้เกิดรูที่ผนังลำไส้ อาการที่บ่งบอกถึงภาวะลำไส้ทะลุ ได้แก่ ปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้ และหัวใจเต้นเร็ว หากสงสัยว่ามีภาวะลำไส้ทะลุ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษา

  • ภาวะแทรกซ้อนจากยาระงับความรู้สึก: เช่น อาการแพ้ยา หรือภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อย เนื่องจากแพทย์และทีมงานจะติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดระหว่างและหลังการตรวจ

การลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง:

  • เตรียมตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด: การเตรียมลำไส้ให้สะอาดก่อนการส่องกล้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน

  • แจ้งประวัติทางการแพทย์และยาที่ใช้ให้แพทย์ทราบ: การแจ้งประวัติทางการแพทย์อย่างละเอียด รวมถึงยาที่กำลังใช้อยู่ จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและเลือกวิธีการระงับความรู้สึกที่เหมาะสม

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการส่องกล้อง: การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การรับประทานอาหารอ่อนๆ ในช่วงแรก การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก และการสังเกตอาการผิดปกติ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง

สรุป:

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นการตรวจที่มีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้ว่าจะมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและหายไปเอง การทำความเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การเตรียมตัวอย่างเหมาะสม และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น หากมีความกังวลหรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและความเข้าใจที่ถูกต้อง