ขาบวม2ข้างเกิดจากอะไร

5 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

ภาวะขาบวมสองข้างอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน โรคไต โรคหัวใจ หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด หากขาบวมร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือผิวหนังเปลี่ยนสี ควรรีบพบแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ขาบวมทั้งสองข้าง: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ขาบวมทั้งสองข้าง (Bilateral leg swelling) เป็นอาการที่พบได้บ่อย และแม้จะดูเป็นอาการเล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ การละเลยอาการนี้จึงอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของขาบวมทั้งสองข้าง เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถสังเกตอาการตนเองได้อย่างถูกต้อง แต่โปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป การวินิจฉัยที่ถูกต้องต้องอาศัยการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

สาเหตุหลักๆ ของขาบวมทั้งสองข้างสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้:

1. ปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต:

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart failure): หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เลือดคั่งในหลอดเลือดและเกิดการบวมที่ขาและเท้า มักพบร่วมกับอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก และแน่นหน้าอก
  • ภาวะลิ้นหัวใจผิดปกติ (Valvular heart disease): ลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้เลือดไหลย้อนกลับและคั่งในร่างกาย ส่งผลให้เกิดขาบวมได้
  • โรคหลอดเลือดดำลึกอุดตัน (Deep vein thrombosis – DVT): การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำลึก มักพบอาการบวมร่วมกับอาการปวดและแดงที่ขา เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์
  • ภาวะไตวาย (Kidney failure): ไตไม่สามารถกรองของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ของเหลวสะสมในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการบวม มักพบร่วมกับอาการปัสสาวะน้อยลงหรือบวมที่ใบหน้า

2. ปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง:

  • ภาวะน้ำเหลืองคั่ง (Lymphedema): ระบบน้ำเหลืองทำงานผิดปกติ ทำให้ของเหลวคั่งในเนื้อเยื่อ ส่งผลให้เกิดอาการบวม มักพบอาการบวมเรื้อรังและผิวหนังหนาขึ้น

3. ปัจจัยอื่นๆ:

  • การตั้งครรภ์: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการกดทับหลอดเลือดอาจทำให้เกิดอาการบวมที่ขา
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาต้านความดันโลหิตสูง ยาต้านการอักเสบ อาจทำให้เกิดอาการบวมเป็นผลข้างเคียง
  • การขาดโปรตีน (Hypoproteinemia): การขาดโปรตีนในเลือดทำให้ความดันของเหลวในหลอดเลือดลดลง ส่งผลให้ของเหลวรั่วไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อ เกิดอาการบวมได้
  • การนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน: ทำให้เลือดคั่งที่ขาและเท้า อาจทำให้เกิดอาการบวมชั่วคราว

เมื่อใดควรพบแพทย์?

หากคุณมีอาการขาบวมทั้งสองข้าง ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปวดขาอย่างรุนแรง ผิวหนังเปลี่ยนสี มีไข้ หรือปัสสาวะน้อยลง ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน

การวินิจฉัยสาเหตุของขาบวมต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ และการตรวจอื่นๆ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการบวม ดังนั้น การปรึกษาแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าปล่อยให้ขาบวมเป็นเพียงอาการที่มองข้าม เพราะมันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการวินิจฉัยโรคที่ร้ายแรงได้

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้