คออักเสบแบบใดต้องให้ยาปฎิชีวนะ

คออักเสบชนิดใดจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ? คำตอบที่ไม่ใช่แค่ “สเตรปโตค็อกคัส”

ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับคออักเสบ คือการคิดว่าทุกกรณีจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ความจริงแล้ว การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของการอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด และไม่ใช่ทุกชนิดที่ต้องการการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ

การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่จำเป็น นอกจากจะไม่ช่วยรักษาโรคแล้ว ยังอาจนำไปสู่การดื้อยาในอนาคต ส่งผลให้ยากต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในครั้งต่อไป ดังนั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

คออักเสบที่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ คือ คออักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Streptococcus pyogenes หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่ม A” การติดเชื้อนี้สามารถตรวจสอบได้โดยการตรวจคอ โดยวิธีการเพาะเชื้อหรือ rapid strep test หากผลการตรวจเป็นบวก แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปมักเป็นยาเพนิซิลลิน หรือยาในกลุ่มเดียวกัน เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ไข้รูมาติก ซึ่งเป็นโรคที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อหัวใจอย่างถาวร

แต่! การใช้ยาปฏิชีวนะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การตรวจพบเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่ม A เท่านั้น ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง มีต่อมน้ำเหลืองโตมาก มีหนองมาก หรือมีอาการแสดงอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรง แม้ว่าผลการตรวจจะไม่พบเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่ม A ก็ตาม การตัดสินใจใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และผลการตรวจต่างๆ ร่วมกัน

สรุปได้ว่า การใช้ยาปฏิชีวนะรักษาคออักเสบจำเป็นต้องอาศัยการวินิจฉัยที่ถูกต้อง โดยแพทย์จะพิจารณาจากอาการ ผลการตรวจ และประวัติของผู้ป่วย เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด การซื้อยาปฏิชีวนะเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์นั้นไม่ควรกระทำ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

คำแนะนำสุดท้าย: หากคุณมีอาการคออักเสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง อย่าพยายามรักษาตัวเองด้วยยาปฏิชีวนะโดยไม่ปรึกษาแพทย์