ค่าตับปกติอยู่ที่เท่าไร

1 การดู

ค่าตับปกติแตกต่างกันไปตามห้องปฏิบัติการ แต่โดยทั่วไป ALT และ AST ควรต่ำกว่า 40 IU/L หากค่าสูงกว่านั้น อาจบ่งชี้ปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือโรคตับแข็ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่าตีความผลเลือดด้วยตนเอง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ถอดรหัสค่าตับ: ความสำคัญและสิ่งที่คุณควรรู้

หลายครั้งที่เราได้ยินคำว่า “ค่าตับ” จากผลการตรวจสุขภาพ แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าค่าเหล่านี้มีความหมายอย่างไร และค่าที่เรียกว่า “ปกติ” นั้นอยู่ที่เท่าไรกันแน่? การทำความเข้าใจค่าตับเบื้องต้นจะช่วยให้คุณใส่ใจสุขภาพตับของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

ค่าตับคืออะไร ทำไมต้องตรวจ?

ค่าตับคือค่าที่แสดงถึงระดับของเอนไซม์บางชนิดในเลือด ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในเซลล์ตับ เมื่อเซลล์ตับได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม เอนไซม์เหล่านี้จะรั่วไหลออกมาในกระแสเลือด ทำให้ระดับของเอนไซม์ในเลือดสูงขึ้น การตรวจค่าตับจึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยที่บ่งบอกว่าตับอาจกำลังมีปัญหา

ค่าตับปกติอยู่ที่เท่าไร?

โดยทั่วไปแล้ว ค่าตับที่นิยมตรวจกันคือ ALT (Alanine Aminotransferase) และ AST (Aspartate Aminotransferase) ค่าปกติของ ALT และ AST อาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับห้องปฏิบัติการและวิธีการตรวจ แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่าที่ถือว่าปกติคือต่ำกว่า 40 IU/L (International Units per Liter)

ค่าตับสูงกว่าปกติ…หมายความว่าอย่างไร?

หากผลการตรวจของคุณพบว่าค่า ALT หรือ AST สูงกว่า 40 IU/L นั่นอาจบ่งชี้ว่าตับของคุณกำลังมีปัญหา แม้ว่าค่าที่สูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังป่วยหนักเสมอไป แต่ก็เป็นสัญญาณที่ควรให้ความสนใจ สาเหตุที่ทำให้ค่าตับสูงขึ้นมีได้หลายอย่าง เช่น

  • ตับอักเสบ: อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส (เช่น ไวรัสตับอักเสบ A, B, C) หรือจากยาบางชนิด
  • ไขมันพอกตับ: ภาวะที่ไขมันสะสมในตับมากเกินไป มักพบในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน
  • โรคตับแข็ง: เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อตับถูกทำลายและเกิดพังผืด มักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือจากไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง
  • ยาและอาหารเสริม: ยาบางชนิดและอาหารเสริมบางประเภท อาจส่งผลเสียต่อตับและทำให้ค่าตับสูงขึ้นได้
  • การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและเป็นประจำ จะทำลายเซลล์ตับ

สิ่งที่ควรทำเมื่อค่าตับสูงกว่าปกติ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าตีความผลเลือดด้วยตนเอง และ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยเพิ่มเติม หาสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาไวรัสตับอักเสบ การตรวจอัลตราซาวนด์ตับ หรือการเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อตรวจวินิจฉัย

ดูแลตับ…เพื่อสุขภาพที่ดี

แม้ว่าการตรวจค่าตับจะมีความสำคัญ แต่การดูแลสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้:

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เน้นผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาหรืออาหารเสริมใดๆ
  • เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ

การดูแลสุขภาพตับเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเรา การทำความเข้าใจค่าตับและหมั่นดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีตับที่แข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว

ข้อควรระวัง: บทความนี้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม