ค่าไตเท่าไร จึงจะฟอกไต

6 การดู
โดยทั่วไป แพทย์จะพิจารณาฟอกไตเมื่อค่า GFR (Glomerular Filtration Rate) ต่ำกว่า 15 มิลลิลิตร/นาที/1.73 ตร.ม. ร่วมกับมีอาการบ่งชี้ว่าไตไม่สามารถขับของเสียได้เพียงพอ เช่น บวม เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และสภาพโดยรวมของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ค่าไตเท่าไร…สัญญาณเตือนภัยสู่การฟอกไต

ไต…อวัยวะสำคัญรูปทรงคล้ายเมล็ดถั่วที่ทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย สร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและควบคุมความดันโลหิต การทำงานของไตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวมของเรา เมื่อไตเสื่อมสมรรถภาพลงจนไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อาจนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง และในที่สุดอาจต้องพึ่งพาการฟอกไตเพื่อดำรงชีวิต

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ค่าไตเท่าไร จึงจะฟอกไต? คำตอบนั้นไม่ได้มีตัวเลขที่ตายตัวเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแพทย์จะพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน โดยปัจจัยหลักที่ใช้ในการประเมินคือค่า GFR (Glomerular Filtration Rate) หรืออัตราการกรองของไต ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการกรองของเสียออกจากเลือด

โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะพิจารณาให้ผู้ป่วยเข้ารับการฟอกไตเมื่อค่า GFR ลดต่ำกว่า 15 มิลลิลิตร/นาที/1.73 ตร.ม. ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าไตทำงานได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ค่า GFR เพียงอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด การตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับอาการแสดงและภาวะสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยแต่ละราย

อาการบ่งชี้ที่ควบคู่ไปกับค่า GFR ที่ต่ำ

ถึงแม้ค่า GFR จะต่ำกว่า 15 แต่หากผู้ป่วยยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ หรืออาการไม่รุนแรงมากนัก แพทย์อาจยังไม่แนะนำให้ฟอกไตในทันที แต่จะติดตามอาการและค่าไตอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไต แต่ในทางกลับกัน หากค่า GFR ยังไม่ต่ำถึง 15 แต่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงที่บ่งชี้ว่าไตไม่สามารถขับของเสียได้เพียงพอ แพทย์ก็อาจพิจารณาให้ฟอกไตเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

อาการที่บ่งชี้ว่าไตไม่สามารถขับของเสียได้เพียงพอ ได้แก่:

  • อาการบวม: โดยเฉพาะบริเวณขา ข้อเท้า และใบหน้า บวมอาจเกิดจากการที่ไตไม่สามารถขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย: เกิดจากภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ไตไม่สามารถสร้างฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้
  • คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร: เกิดจากการสะสมของเสียในร่างกาย
  • คันตามผิวหนัง: เกิดจากการสะสมของเสียที่ผิวหนัง
  • หายใจลำบาก: เกิดจากภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ไตไม่สามารถขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้
  • ความดันโลหิตสูงควบคุมได้ยาก: ไตมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต เมื่อไตเสื่อมสมรรถภาพ ความดันโลหิตจึงอาจสูงขึ้นและควบคุมได้ยาก
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต: เช่น ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไป (Hyperkalemia) ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะน้ำในปอด (Pulmonary Edema)

ดุลยพินิจของแพทย์…หัวใจสำคัญของการตัดสินใจ

การตัดสินใจว่าจะเริ่มฟอกไตเมื่อใดจึงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมดของผู้ป่วย ทั้งค่า GFR อาการแสดง ภาวะสุขภาพโดยรวม และความต้องการของผู้ป่วยเอง เพื่อให้การตัดสินใจนั้นเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายมากที่สุด

ดังนั้น การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อชะลอความเสื่อมของไตและหลีกเลี่ยงการฟอกไตในอนาคต