จะรู้ได้ไงว่าน้ำตาลในเลือดสูง

รู้ได้อย่างไรว่าน้ำตาลในเลือดสูง? สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม

โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และมักมีอาการไม่ชัดเจนในระยะเริ่มต้น การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือนของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาโรค เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในอนาคตได้

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า อาการน้ำตาลในเลือดสูง จะต้องมีอาการชัดเจนอย่างเห็นได้ชัดเสมอ แต่ความจริงแล้ว ในระยะเริ่มต้น อาการอาจเบาบางและคล้ายกับอาการป่วยทั่วไป ทำให้ผู้ป่วยหลายรายไม่ได้ให้ความสำคัญ จนกระทั่งอาการรุนแรงขึ้นจึงเข้ารับการรักษา ดังนั้น การรู้จักสังเกตสัญญาณเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ

สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีน้ำตาลในเลือดสูง:

อาการต่อไปนี้ หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรง ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยเร็วที่สุด:

• ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมากขึ้น: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จึงทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น แม้ในเวลากลางคืนก็ตาม
• กระหายน้ำอย่างรุนแรง: เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำไปกับปัสสาวะจำนวนมาก จึงทำให้รู้สึกกระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ไม่หายกระหาย
• น้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติ: แม้รับประทานอาหารตามปกติ แต่กลับน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาจเกิดจากร่างกายเผาผลาญน้ำตาลไม่ดี ทำให้ร่างกายนำไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน
• หิวบ่อยและหิวจัด: แม้เพิ่งรับประทานอาหารไปแล้ว ก็ยังรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา เพราะเซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า: ร่างกายขาดพลังงาน ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม
• มองภาพไม่ชัด: น้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลกระทบต่อเลนส์ในตา ทำให้มองภาพไม่ชัดเจน เบลอ หรือพร่ามัว
• แผลหายช้า: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง อาจทำให้การสมานแผลช้าลง และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
• รู้สึกชาหรือมดกัดที่ปลายมือปลายเท้า: เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากเส้นประสาทถูกทำลายเนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง

อย่าละเลยอาการ! การตรวจสุขภาพเป็นประจำคือกุญแจสำคัญ

การสังเกตอาการผิดปกติเหล่านี้ เป็นเพียงการคาดเดาเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจ จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การตรวจสุขภาพประจำปี หรือการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถตรวจพบโรคเบาหวานได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และสามารถเริ่มการรักษาได้อย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โรคไต โรคหัวใจ และปัญหาเกี่ยวกับสายตา

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเสมอ