ตับอักเสบ ปวดท้อง ยัง ไง

6 การดู

อาการปวดท้องที่เกิดจากโรคตับอักเสบ มักเป็นอาการปวดจุกเสียดบริเวณชายโครงขวา อาจมีอาการท้องอืดร่วมด้วย แต่ปวดท้องไม่ใช่ลักษณะเด่นของโรคตับอักเสบ อาการอื่นๆ เช่น ไข้ อ่อนเพลีย และดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม) จึงเป็นสัญญาณสำคัญที่ควรสังเกต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดท้องแบบไหน บอกโรคตับอักเสบ? ไขข้อข้องใจอาการปวดท้องกับตับอักเสบ

หลายคนมักเชื่อมโยงอาการปวดท้องกับโรคกระเพาะ หรือลำไส้ แต่รู้หรือไม่ว่าอาการปวดท้องอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคตับอักเสบได้เช่นกัน ถึงแม้จะไม่ใช่ลักษณะเด่นของโรคก็ตาม บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างอาการปวดท้องกับโรคตับอักเสบ เพื่อให้คุณสามารถสังเกตอาการของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง

อาการปวดท้องที่เกี่ยวข้องกับตับอักเสบมักไม่ใช่ปวดแบบแสบร้อน หรือปวดเกร็งอย่างรุนแรง แต่จะเป็นอาการปวดตึงๆ หรือปวดจุกเสียดบริเวณชายโครงขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ บางครั้งอาจมีอาการท้องอืดร่วมด้วย ความรุนแรงของอาการปวดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจปวดน้อยจนแทบไม่รู้สึก ในขณะที่บางรายอาจปวดมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม อาการปวดท้องเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับอักเสบ เนื่องจากอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวาอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี กล้ามเนื้ออักเสบ หรือแม้แต่ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตอาการอื่นๆ ที่มักปรากฏร่วมด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนกว่าของโรคตับอักเสบ ได้แก่

  • ไข้: ผู้ป่วยตับอักเสบมักมีไข้ต่ำๆ หรือไข้สูง ซึ่งเป็นผลมาจากการอักเสบของตับ
  • อ่อนเพลีย: รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง ไม่มีเรี่ยวแรง แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม
  • ดีซ่าน: เป็นอาการที่สังเกตได้ชัดเจน โดยผู้ป่วยจะมีผิวหนังและตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นคล้ายสีน้ำชา และอุจจาระอาจมีสีซีดลง

หากคุณมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวา ร่วมกับอาการอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง การตรวจเลือดและการตรวจอื่นๆ จะช่วยยืนยันว่าอาการปวดท้องของคุณเกิดจากโรคตับอักเสบหรือไม่ และช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรัง เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

การดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรง เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ.