ถ้าตับไม่ดีมีอาการอย่างไร

4 การดู

อาการของโรคไตเรื้อรังอาจส่งผลต่อผิวหนังได้ เช่น ผิวหนังแห้ง คัน บวม หรือเปลี่ยนสี ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะออกน้อย เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตับไม่ดี มีอาการอย่างไร? รู้ไว้ ป้องกันได้

ตับเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีหน้าที่หลากหลาย เช่น กำจัดสารพิษจากเลือด ผลิตน้ำดี ช่วยในการย่อยอาหาร และสังเคราะห์โปรตีน หากตับทำงานไม่ดี อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างร้ายแรง และอาจนำไปสู่โรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้

อาการของตับไม่ดี มีดังนี้

  • สีผิวและดวงตาเปลี่ยนแปลง: ตับไม่สามารถกำจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดอาการเหลืองในผิวหนังและดวงตา (ดีซ่าน)
  • ปัสสาวะเปลี่ยนสี: ปัสสาวะอาจมีสีเข้มขึ้น เนื่องจากมีสารพิษสะสมในร่างกาย
  • อุจจาระผิดปกติ: อุจจาระอาจมีสีซีด หรือมีลักษณะเหลว เนื่องจากการผลิตน้ำดีไม่เพียงพอ
  • ปวดท้องด้านขวาบน: บริเวณที่ตับอยู่ อาจมีอาการปวดหรือรู้สึกเจ็บ
  • บวมน้ำ: ตับไม่สามารถผลิตโปรตีนได้เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายเกิดบวมน้ำ
  • เลือดออกง่าย: ตับผลิตสารที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด หากตับทำงานไม่ดี เลือดอาจออกง่าย
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย: ตับทำงานหนักขึ้น ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร: เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระบบย่อยอาหาร
  • อาการคันตามผิวหนัง: เกิดจากการสะสมของสารพิษในร่างกาย

หากพบอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

วิธีการดูแลตับให้แข็งแรง

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม่รับประทานอาหารมันๆ เค็มๆ ของทอด และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและตับทำงานได้อย่างเต็มที่
  • เลิกบุหรี่: บุหรี่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตับ
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: การตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้เร็ว และรักษาได้ทันท่วงที

การดูแลตับให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ เพราะตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยในการขับสารพิษและทำหน้าที่สำคัญในร่างกาย หากคุณรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตับของคุณ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม