ตับไม่ดีจะมีอาการอย่างไร

1 การดู

อาการตับไม่ดีอาจแสดงออกแตกต่างกันไป เช่น ปวดท้องด้านขวาบน อ่อนเพลียง่าย ตาเหลือง ผิวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีอ่อน บวมที่ขาและเท้า มีเลือดออกง่าย หรือคันผิวหนังอย่างรุนแรง หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัญญาณเตือนภัยจากตับ : รู้เท่าทันก่อนสายเกินแก้

ตับ เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่มากมายในร่างกาย ตั้งแต่การกรองสารพิษ ผลิตโปรตีน ไปจนถึงการช่วยย่อยอาหาร หากตับทำงานผิดปกติหรือได้รับความเสียหาย อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง แต่โชคดีที่เรามีวิธีสังเกตสัญญาณเตือนภัยเบื้องต้น เพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา

หลายคนมักมองข้ามอาการผิดปกติเล็กๆน้อยๆ คิดว่าเป็นเพียงความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก หรืออาการเจ็บป่วยทั่วไป แต่หากอาการเหล่านั้นเรื้อรัง หรือมาพร้อมกับอาการอื่นๆ ควรตระหนักว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนจากตับที่กำลังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

อาการตับไม่ดีที่ไม่ควรมองข้าม:

อาการของโรคตับนั้นหลากหลาย และความรุนแรงก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของการบาดเจ็บของตับ บางคนอาจมีอาการแสดงออกอย่างชัดเจน ในขณะที่บางคนอาจมีอาการไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการเลยจนกระทั่งโรคมีความรุนแรง ดังนั้น การสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญมาก อาการที่น่าสงสัย ได้แก่:

  • ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง: รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม นี่เป็นอาการทั่วไปที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคตับ เนื่องจากตับไม่สามารถทำหน้าที่กำจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า

  • การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและดวงตา: ตาเหลือง ผิวเหลือง (ดีซ่าน) เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการสะสมของบิลิรูบินในเลือด บิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง หากตับทำงานผิดปกติ จะไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้เกิดอาการดีซ่าน

  • ปัสสาวะสีเข้มและอุจจาระสีอ่อน: บิลิรูบินที่สะสมอยู่ในเลือด จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มคล้ายสีน้ำชา ในขณะเดียวกัน อุจจาระจะซีดลง เนื่องจากบิลิรูบินไม่สามารถไปถึงลำไส้เพื่อให้สีแก่กากอาหารได้

  • อาการบวมที่ขาและเท้า: การทำงานของตับที่บกพร่อง อาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำ เกิดอาการบวมที่ขาและเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็น

  • ปวดท้องด้านขวาบน: ความเจ็บปวดอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเจ็บป่วย

  • มีเลือดออกง่ายหรือมีรอยช้ำง่าย: ตับมีบทบาทสำคัญในการผลิตโปรตีนที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด หากตับทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ทำให้มีเลือดออกง่ายหรือมีรอยช้ำง่าย

  • คันผิวหนังอย่างรุนแรง: อาการคันอาจเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณเฉพาะจุดหรือทั่วทั้งร่างกาย มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในร่างกาย

อย่าละเลยสัญญาณเตือน

หากคุณพบอาการใดๆ ดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการเหล่านั้นเรื้อรัง หรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และอาจทำการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น อัลตราซาวนด์ หรือการตรวจเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การตรวจรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ