ทำไมกินปลาเค็มแล้วคัน

ทำไมกินปลาเค็มแล้วคัน?

การกินปลาเค็มแล้วรู้สึกคันเป็นอาการที่พบได้ไม่ยาก แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่สาเหตุที่แท้จริงอาจซับซ้อนมากกว่าที่คิด ไม่ได้เกิดจากเพียงสาเหตุเดียวเสมอไป บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุหลักๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคันหลังจากรับประทานปลาเค็ม

1. การแพ้สารฮิสตามีน: ปลาเค็มส่วนใหญ่จะผ่านกระบวนการหมักหรือดอง ซึ่งกระบวนการนี้สามารถเพิ่มปริมาณฮิสตามีนในปลาได้ ฮิสตามีนเป็นสารเคมีที่ร่างกายผลิตได้เอง แต่หากมีมากเกินไปจะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ อาการแพ้สารฮิสตามีนอาจแสดงออกในหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่คันอย่างเดียว อาจมีอาการอื่นๆ เช่น ผื่นขึ้น คันบริเวณผิวหนัง คลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้อง ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเลหรือแพ้สารอาหารบางประเภทควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

2. ความแห้งของผิวหนัง: ปลาเค็มมักมีรสเค็มจัด การกินปลาเค็มมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ผิวหนังก็จะแห้งและคันตามมา โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวหนังมีแนวโน้มที่จะแห้งอยู่แล้ว การรับประทานปลาเค็มร่วมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการนี้ได้

3. การระคายเคืองทางกลไก: ปลาเค็มบางชนิดอาจมีเกล็ดหรือเนื้อที่แห้งและหยาบกร้าน การรับประทานปลาเค็มอาจทำให้เกิดการระคายเคืองทางกลไกกับผิวหนังบริเวณปาก ลิ้นหรือคอ อาการระคายเคืองนี้บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการคันได้

4. การอักเสบจากสารเคมี: นอกเหนือจากเกลือแล้ว ปลาเค็มบางชนิดอาจถูกแช่ในน้ำดองหรือใช้สารกันบูดต่างๆ สารเหล่านี้บางชนิดอาจเป็นสารก่อระคายเคืองหรืออาจก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันตามมา

5. อาการแพ้ทางเดินอาหาร: แม้ว่าอาการคันจะเกิดขึ้นที่ผิวหนัง แต่บางครั้งการแพ้อาหารอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ โดยการแพ้สารบางประเภทในปลาเค็มอาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติและเกิดอาการแพ้ทางเดินอาหารอย่างเช่น คัน ท้องอืด หรืออาเจียน ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบอาการแปลกๆ ควรปรึกษาแพทย์

ข้อควรระวัง: บทความนี้มีไว้เพื่อความรู้ทั่วไปเท่านั้น หากมีอาการคันที่รุนแรงหรือมีอาการแพ้อาหารอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์โดยทันที อย่าใช้ข้อมูลนี้เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง