ทำไมกินเสตียรอยแล้วตัวบวม

เสตียรอยด์ กับ อาการบวม: ภัยเงียบจากยารักษาโรค

ยาสเตียรอยด์มักถูกใช้เป็นยารักษาโรคมากมาย เช่น โรคภูมิแพ้ โรคข้ออักเสบ และโรคระบบทางเดินหายใจ แต่การรับประทานยาชนิดนี้เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้ หนึ่งในนั้นคือ อาการบวม

ทำไมกินเสตียรอยด์แล้วตัวบวม?

1. กักเก็บน้ำในร่างกาย: ยาสเตียรอยด์มีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและโซเดียมไว้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการบวมได้ โดยเฉพาะที่ใบหน้า มือ เท้า และขา

2. ผลข้างเคียงอื่นๆ: นอกจากอาการบวมแล้ว การรับประทานยาสเตียรอยด์ระยะยาว ยังอาจนำไปสู่อาการข้างเคียงอื่นๆ ได้อีก เช่น

• ความดันโลหิตสูง: ยาสเตียรอยด์ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
• ปัญหาเกี่ยวกับกระดูก: ยาสเตียรอยด์อาจทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
• เบาหวาน: ยาสเตียรอยด์อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
• แผลในกระเพาะอาหาร: ยาสเตียรอยด์อาจทำให้เยื่อบุในกระเพาะอาหารอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดแผลได้

ควรปรึกษาแพทย์:

หากคุณกำลังรับประทานยาสเตียรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด แจ้งให้แพทย์ทราบถึงอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้แพทย์ปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสม

คำแนะนำ:

• อย่าหยุดยาเองโดยพลการ: การหยุดยาเสตียรอยด์เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้
• รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์: รับประทานยาให้ตรงเวลา ตามขนาดที่แพทย์สั่ง
• สังเกตอาการข้างเคียง: ติดตามอาการข้างเคียงอย่างใกล้ชิด และรายงานให้แพทย์ทราบหากเกิดอาการผิดปกติ
• เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกอาหารที่มีแร่ธาตุและวิตามินครบถ้วน เพื่อช่วยลดผลข้างเคียงของยา

การรับประทานยาสเตียรอยด์อาจช่วยบรรเทาอาการโรค แต่ควรรับประทานยาอย่างถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการข้างเคียง และควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติใดๆ