ทำไมเป็นลมพิษไม่หายสักที
ลมพิษไม่หายขาดอาจเกิดจากปัจจัยกระตุ้นหลากหลาย เช่น การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ยาบางชนิดที่แพ้ ความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์ (ทั้งไฮเปอร์ไทรอยด์และไฮโปไทรอยด์) หรือการแพ้สารสัมผัสต่างๆ เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น หรือพิษแมลง ควรถามแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
ทำไมลมพิษไม่หายสักที
ลมพิษเป็นภาวะที่ผิวหนังเกิดผื่นแดง บวม คัน เป็นปื้นนูน โดยทั่วไปจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง แต่ในบางราย อาการลมพิษอาจไม่หายสักที ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ
ปัจจัยที่ทำให้ลมพิษไม่หาย
- การติดเชื้อเรื้อรัง: การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา เช่น ไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมีขน (EBV) ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง อาจกระตุ้นให้เกิดลมพิษได้
- ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน หรือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อาจทำให้เกิดอาการลมพิษได้
- ความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์: ทั้งภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์ (ฮอร์โมนไทรอยด์สูง) และไฮโปไทรอยด์ (ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ) สามารถกระตุ้นให้เกิดลมพิษได้
- การแพ้สารสัมผัส: สารสัมผัสต่างๆ เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น หรือพิษแมลง อาจทำให้เกิดลมพิษได้
- ปัจจัยทางพันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดลมพิษมากกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรม
แนวทางการรักษา
การรักษาอาการลมพิษที่ไม่หายสักทีจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของลมพิษ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ
- หากเกิดจากการติดเชื้อ: แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส หรือยาต้านเชื้อรา เพื่อรักษาการติดเชื้อ
- หากเกิดจากยา: แพทย์จะแนะนำให้หยุดใช้ยาที่แพ้และเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นแทน
- หากเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์: แพทย์จะสั่งยาเพื่อปรับระดับฮอร์โมนไทรอยด์
- หากเกิดจากการแพ้สารสัมผัส: แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และอาจสั่งยาต้านฮีสตามีนเพื่อลดอาการคัน
ในบางราย อาจไม่สามารถหาสาเหตุของลมพิษได้ แพทย์จะพิจารณาให้ยาฉีดภูมิคุ้มกัน (IgE) เพื่อลดอาการลมพิษเรื้อรัง
หากคุณมีอาการลมพิษที่ไม่หายสักที ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
#รักษาไม่หาย#ลมพิษเรื้อรัง#แพ้ภูมิตัวเองข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต