นิ้วบวมหายเองได้ไหม

นิ้วบวม… หายเองได้ไหม? เมื่อไหร่ต้องพบแพทย์?

นิ้วมือบวม อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า อาการบวมที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคภัยใกล้ตัวได้เช่นกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรดูแลตัวเองที่บ้าน หรือต้องรีบไปพบแพทย์ บทความนี้มีคำตอบ!

สาเหตุของอาการนิ้วบวม

อาการนิ้วบวม เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวอย่างการใช้งานนิ้วมือหนักเกินไป โดนแมลงสัตว์กัดต่อย แพ้อาหาร หรือ แพ้ยา ไปจนถึงโรคภัยที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคไทรอยด์ หรือแม้แต่อาการบวมน้ำระหว่างตั้งครรภ์

นิ้วบวมแบบไหนหายเองได้?

หากนิ้วบวมเกิดจากการใช้งานหนัก เช่น พิมพ์งานนาน ๆ เล่นกีฬา หรือยกของหนัก อาการบวมมักไม่รุนแรง สามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน ด้วยการพักผ่อน ประคบเย็น และยกมือสูง

เมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์?

ถึงแม้บางครั้งนิ้วบวมจะหายได้เอง แต่หากพบอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

• บวมมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่หายภายใน 2-3 วัน
• ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่บวม
• นิ้วชา หรืออ่อนแรง
• มีไข้ร่วมด้วย
• มีประวัติแพ้ เช่น แพ้แมลง แพ้อาหาร หรือแพ้ยา
• มีโรคประจำตัว เช่น โรคเกาต์ โรคเบาหวาน

การรักษาอาการนิ้วบวม

การรักษาอาการนิ้วบวม ขึ้นอยู่กับสาเหตุ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจส่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และให้การรักษาอย่างตรงจุด ซึ่งอาจประกอบด้วย

• การรับประทานยา เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาขับปัสสาวะ
• การทำกายภาพบำบัด เพื่อลดอาการบวม และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
• การรักษาโรคต้นเหตุ เช่น การรักษาโรคเกาต์ หรือโรคข้ออักเสบ

การป้องกันอาการนิ้วบวม

เราสามารถดูแลตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดนิ้วบวมได้ ดังนี้

• หลีกเลี่ยงการใช้งานนิ้วมือหนักเกินไป
• พักมือเป็นระยะเมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้มือ เช่น การพิมพ์งาน
• สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ เมื่อต้องทำงานที่เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผล
• ควบคุมอาหาร และน้ำหนักตัว
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

อย่าลืมว่าอาการนิ้วบวมที่ดูเหมือนเล็กน้อย อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้หากละเลย การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี และห่างไกลจากโรคร้ายได้ครับ