ปวดแสบปวดร้อนหลังเกิดจากอะไร

ปวดแสบปวดร้อนที่หลัง: อาการที่ไม่ควรมองข้าม

ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่หลังนั้นแตกต่างจากอาการปวดหลังทั่วไป มันมักมาพร้อมกับอาการชา รู้สึกเสียวซ่า หรือเหมือนมีเข็มทิ่มแทง ความรุนแรงของอาการก็อาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับปวดเล็กน้อยจนถึงปวดรุนแรงจนทนไม่ไหว การปวดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทหรือเส้นประสาทบริเวณหลัง

สาเหตุของอาการปวดแสบปวดร้อนที่หลังนั้นมีหลายประการ และการวินิจฉัยที่ถูกต้องจำเป็นต้องอาศัยการตรวจสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต่อไปนี้เป็นสาเหตุที่เป็นไปได้บางส่วน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อยืนยัน:

1. โรคประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy): นี่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการปวดแสบปวดร้อน เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณจากไขสันหลังไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย สาเหตุของโรคประสาทส่วนปลายนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่โรคเบาหวาน โรคไต การขาดวิตามิน ไปจนถึงผลข้างเคียงของยาบางชนิด การปวดมักกระจายเป็นบริเวณกว้าง ไม่ใช่แค่จุดใดจุดหนึ่ง และมักแย่ลงในเวลากลางคืน

2. โรคปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ (Guillain-Barré syndrome): เป็นโรคที่หายากแต่ร้ายแรง ระบบภูมิคุ้มกันจะโจมตีปลอกหุ้มเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน อ่อนแรง และชา อาการมักเริ่มจากเท้าและขา แล้วค่อยๆ กระจายขึ้นไปยังลำตัว และอาจส่งผลกระทบต่อการหายใจได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลโดยด่วน

3. โรคกระดูกสันหลังเสื่อม (Spinal Stenosis): การเสื่อมของกระดูกสันหลังอาจทำให้ช่องว่างในกระดูกสันหลังแคบลง ไปกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ชา และอ่อนแรง อาการมักแย่ลงเมื่อยืนหรือเดินนานๆ

4. เริมหลัง (Shingles): เกิดจากการกลับมาของไวรัสวาริเซลลา-ซอสเตอร์ ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส อาการปวดแสบปวดร้อนจะมาพร้อมกับผื่นแดงเป็นแถบ มีตุ่มน้ำใส และอาจมีไข้ อาการมักใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการหาย

5. ปัญหาเกี่ยวกับแผ่นหลัง (Disc problems): แผ่นดิสก์ที่เสื่อมสภาพหรือเคลื่อนที่อาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ชา และอ่อนแรง บริเวณที่ปวดอาจแผ่ไปยังขาได้ (Sciatica)

การวินิจฉัยและการรักษา:

การปวดแสบปวดร้อนที่หลังไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์อาจทำการตรวจร่างกาย ตรวจประวัติอาการ และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจเอกซเรย์ การตรวจ MRI หรือการตรวจไฟฟ้าประสาท เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ อาจรวมถึงการใช้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ การกายภาพบำบัด หรือการผ่าตัดในบางกรณี

สรุปแล้ว อาการปวดแสบปวดร้อนที่หลังเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม การปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดจะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ