มีเสมหะในคอ นอนท่าไหน

2 การดู

เคลียร์เสมหะตกค้างด้วยการนอนตะแคงสลับข้างซ้าย-ขวา ยกส่วนอกให้สูงกว่าช่วงเอวเล็กน้อย ใช้หมอนรองใต้เข่า ช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดโล่ง ระบายเสมหะได้ง่ายขึ้น ทำวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กำจัดเสมหะรบกวน ด้วยท่าทางการนอนที่ถูกต้อง

อาการเสมหะค้างในลำคอเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย นอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายคอแล้ว ยังอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้อีกด้วย หลายคนมักแก้ปัญหาด้วยการกระแอม หรือกลืนเสมหะลงไป แต่ทราบหรือไม่ว่า การปรับเปลี่ยนท่าทางการนอนก็สามารถช่วยลดปัญหาเสมหะตกค้างได้เช่นกัน

การนอนในท่าที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยระบายเสมหะออกจากทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น และลดอาการระคายเคืองในลำคอ แทนที่จะนอนราบหรือในท่าเดิมๆ ลองปรับเปลี่ยนท่าทางการนอนดังนี้เพื่อจัดการกับเสมหะที่ค้างอยู่ในลำคอ:

ท่าตะแคงสลับข้าง พร้อมยกศีรษะและลำตัวเล็กน้อย: การนอนตะแคงช่วยให้แรงโน้มถ่วงช่วยดึงเสมหะไหลลงมาได้ การสลับข้างซ้ายขวาเป็นระยะๆ จะช่วยให้เสมหะไม่ตกค้างอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง ควรใช้หมอนรองศีรษะและลำตัวให้สูงขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 15-20 องศา ทำให้ทางเดินหายใจเปิดโล่ง การใช้หมอนรองใต้เข่าจะช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ลดอาการปวดหลัง และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

ระยะเวลาและความถี่: ควรนอนในท่านี้วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที อาจทำก่อนนอนหรือหลังตื่นนอน หรือในช่วงที่รู้สึกว่าเสมหะค้างมาก

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: การนอนหงายจะทำให้เสมหะไหลลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่างได้ง่าย อาจทำให้เกิดอาการไอ และแน่นหน้าอกมากขึ้น การนอนคว่ำก็ไม่เหมาะสมเพราะอาจทำให้หายใจไม่สะดวก และเพิ่มแรงกดทับบริเวณลำคอ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยทำให้เสมหะมีความเหลว ระบายออกได้ง่ายขึ้น
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรือสารระคายเคืองอื่นๆ
  • ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ: ไอน้ำจะช่วยทำให้เสมหะเหลวตัว และช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอ
  • ปรึกษาแพทย์: หากอาการเสมหะค้างไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ เช่น ไข้ ไอมาก หรือเหนื่อยง่าย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา

การปรับเปลี่ยนท่าทางการนอนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาเสมหะค้างได้อย่างสมบูรณ์ ควรใช้ร่วมกับวิธีการอื่นๆ และควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาเสมหะค้าง ทำให้คุณนอนหลับได้อย่างสบาย และมีสุขภาพที่ดีขึ้น