ยาอะไรไม่ควรกินคู่กัน

0 การดู

หลีกเลี่ยงการทานนม, ยาลดกรด, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม เสริม ร่วมกับยาปฏิชีวนะบางชนิดเช่น เททราไซคลิน, ควินโนโลน เพราะจะลดประสิทธิภาพยา ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน

ในชีวิตประจำวัน เราอาจต้องรับประทานยาหลายๆ ประเภทพร้อมกัน เพื่อรักษาอาการป่วยต่างๆ อย่างไรก็ตาม การกินยาบางชนิดร่วมกันอาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึม การทำงาน และประสิทธิภาพของยาได้

1. ยาปฏิชีวนะและผลิตภัณฑ์จากนม ยาลดกรด ธาตุเหล็ก แคลเซียม

  • ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น เททราไซคลิน (Tetracycline) และควินโนโลน (Quinolones) จะจับกับแคลเซียมและธาตุเหล็กในผลิตภัณฑ์จากนม ยาลดกรด และอาหารเสริม ทำให้การดูดซึมของยาปฏิชีวนะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการรักษาต่ำลง
  • ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ชั่วโมงระหว่างการรับประทานยาปฏิชีวนะและผลิตภัณฑ์จากนม ยาลดกรด ธาตุเหล็ก แคลเซียม

2. ยาลดความดันโลหิตและยาแก้คัดจมูก

  • ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เช่น กัวเนทิดีน (Guanethidine) และเบทานิดิน (Bethanidine) อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะน้ำมูกไหลหรือคัดจมูก
  • หากรับประทานยาลดความดันโลหิตอยู่ ควรระมัดระวังในการใช้ยาแก้คัดจมูก อาจเลือกใช้ยาแก้คัดจมูกที่ไม่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) หรือฟีนิเลฟริน (Phenylephrine)

3. ยาต้านการแข็งตัวของเลือดและแอสไพรินหรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)

  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) อาจมีปฏิกิริยากับแอสไพรินหรือ NSAIDs (เช่น ไอบูโปรเฟน นาโปรเซน) ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
  • ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาต้านการอักเสบร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด

4. ยาขับปัสสาวะและลิเธียม

  • ยาขับปัสสาวะบางชนิด เช่น ไทอาไซด์ (Thiazides) อาจลดการขับถ่ายลิเธียมในปัสสาวะ ทำให้ระดับลิเธียมในเลือดสูงขึ้นได้
  • หากรับประทานยาขับปัสสาวะอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ลิเธียม

5. ยาลดกรดและยากันชัก

  • ยาลดกรดบางชนิด เช่น แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) และอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminum hydroxide) อาจลดการดูดซึมของยากันชักบางชนิด เช่น ฟีนิโทอิน (Phenytoin) และวัลโปรอิกแอซิด (Valproic acid)
  • ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ชั่วโมงระหว่างการรับประทานยาลดกรดและยากันชัก

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาและอาหารเสริมทั้งหมดที่กำลังรับประทาน เพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยประเมินความเสี่ยงและแนะนำวิธีการใช้ยาที่เหมาะสมได้