ยาแก้ภูมิแพ้กินทุกวันได้ไหม

1 การดู

การใช้ยาแก้แพ้เป็นประจำควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการแพ้เรื้อรัง แม้ว่ายาแก้แพ้หลายชนิดจะปลอดภัยในระยะยาว แต่การใช้บางชนิดอาจส่งผลต่อความจำในบางราย การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยประเมินความเสี่ยงและเลือกยาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ยาแก้ภูมิแพ้: กินได้ทุกวันหรือไม่?

ยาแก้ภูมิแพ้ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า Antihistamines เป็นยาที่ใช้สำหรับบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล คันตา คันจมูก จาม ผื่นลมพิษ และอาการบวม อาการแพ้เหล่านี้อาจเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น อาหารบางชนิด หรือแมลงกัดต่อย

การใช้ยาแก้ภูมิแพ้เป็นประจำนั้นจำเป็นต้องปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการแพ้เรื้อรัง แม้ว่ายาแก้ภูมิแพ้หลายชนิดจะปลอดภัยสำหรับการใช้ในระยะยาว แต่บางชนิดอาจส่งผลต่อความจำในบางราย ดังนั้น การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยประเมินความเสี่ยงและเลือกประเภทของยาแก้ภูมิแพ้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ยาแก้ภูมิแพ้บางชนิดที่กินได้ทุกวัน

  • Loratadine (Claritin)
  • Cetirizine (Zyrtec)
  • Fexofenadine (Allegra)
  • Desloratadine (Clarinex)
  • Rupatadine (Rupall)

ยาแก้ภูมิแพ้เหล่านี้เป็นยาแก้แพ้ชนิดที่สอง (second-generation antihistamines) ซึ่งไม่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมเหมือนยาแก้ภูมิแพ้ชนิดแรก (first-generation antihistamines) โดยทั่วไปแล้ว ยาแก้ภูมิแพ้ชนิดที่สองสามารถใช้เป็นประจำทุกวันได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ปากแห้ง ตาพร่ามัว และปัสสาวะบ่อย

ยาแก้ภูมิแพ้บางชนิดที่ไม่ควรกินทุกวัน

  • Diphenhydramine (Benadryl)
  • Chlorpheniramine (Chlor-Trimeton)
  • Hydroxyzine (Atarax, Vistaril)
  • Promethazine (Phenergan)

ยาแก้ภูมิแพ้เหล่านี้เป็นยาแก้แพ้ชนิดแรก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมและผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ปากแห้ง ตาพร่ามัว ปัสสาวะบ่อย และท้องผูก ยาแก้ภูมิแพ้ชนิดที่หนึ่งไม่แนะนำให้นำมาใช้เป็นประจำทุกวันเว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากแพทย์

การเลือกยาแก้ภูมิแพ้

ยาแก้ภูมิแพ้ที่ดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับชนิดของอาการแพ้ ความรุนแรงของอาการ และประวัติทางการแพทย์ของคุณ หากคุณไม่แน่ใจว่ายาแก้ภูมิแพ้ชนิดใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำ