สูตรคํานวณยาฉีดคืออะไร

การคำนวณปริมาณยาฉีด: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายและแม่นยำ

การฉีดยาเป็นวิธีการให้ยาที่สำคัญและพบได้บ่อย แต่การคำนวณปริมาณยาที่ถูกต้องแม่นยำนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวด ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่อันตรายต่อผู้ป่วยได้ บทความนี้จะนำเสนอวิธีการคำนวณปริมาณยาฉีดที่เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างและคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

สูตรพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณปริมาณยาฉีด สามารถจดจำได้ง่ายด้วยสูตร “Desired Over Have” หรือ “ต้องการ ส่วน มี” ซึ่งสามารถเขียนเป็นสมการคณิตศาสตร์ได้ดังนี้:

ปริมาณยาที่ต้องฉีด (มล.) = (ขนาดยาที่ต้องการ (มก. หรือ หน่วยอื่นๆ)) / (ขนาดยาที่มีใน 1 มล. (มก. หรือ หน่วยอื่นๆ/มล.))

หรือเขียนสั้นๆ ได้ว่า:

ปริมาณที่ต้องฉีด = ต้องการ / มี

ตัวอย่างการคำนวณ:

สมมติว่าแพทย์สั่งยา 60 มิลลิกรัม (มก.) แต่ยามีความเข้มข้น 40 มก./มล. เราจะคำนวณปริมาณยาที่ต้องฉีดได้ดังนี้:

• ต้องการ: 60 มก. (ขนาดยาที่แพทย์สั่ง)
• มี: 40 มก./มล. (ความเข้มข้นของยาในขวด)

ปริมาณที่ต้องฉีด = 60 มก. / 40 มก./มล. = 1.5 มล.

ดังนั้น คุณต้องฉีดยา 1.5 มิลลิลิตร เพื่อให้ได้ขนาดยา 60 มิลลิกรัมตามที่แพทย์สั่ง

ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม:

• หน่วยต้องตรงกัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน่วยของขนาดยาที่ต้องการและความเข้มข้นของยาในขวดตรงกัน เช่น มิลลิกรัม (มก.) ไมโครกรัม (mcg) หรือ ยูนิต (units) หากหน่วยไม่ตรงกัน ต้องแปลงหน่วยให้ตรงกันก่อนทำการคำนวณ
• อ่านฉลากยาอย่างละเอียด: ก่อนเตรียมยาฉีดทุกครั้ง ควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าใช้ยาถูกต้อง ความเข้มข้นถูกต้อง และวันหมดอายุยังไม่ผ่าน
• ปรึกษาเภสัชกรหรือบุคลากรทางการแพทย์: หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการคำนวณหรือวิธีการฉีด ควรปรึกษาเภสัชกรหรือบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
• ฝึกฝนการคำนวณ: การฝึกฝนการคำนวณปริมาณยาฉีดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความมั่นใจในการเตรียมยา

การคำนวณปริมาณยาฉีดที่ถูกต้องเป็นทักษะที่สำคัญ การทำความเข้าใจสูตรและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงของความผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย.