Metformin ทำลายไตไหม

0 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำ:

เมตฟอร์มินไม่ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อไต แต่ผู้ที่มีภาวะไตผิดปกติควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากไตที่ทำงานได้ไม่เต็มที่จะทำให้เมตฟอร์มินสะสมในร่างกาย เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกรดแลคติก ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง ผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมตฟอร์มิน: มิตรหรือศัตรูต่อไต? ไขข้อข้องใจยาเบาหวานยอดนิยมกับสุขภาพไต

เมตฟอร์มิน (Metformin) คือยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หลายคนอดสงสัยว่า ยาตัวนี้ส่งผลเสียต่อไตหรือไม่? คำตอบคือ เมตฟอร์มิน ไม่ได้ทำลายไตโดยตรง แต่สถานการณ์ของผู้ป่วยแต่ละรายมีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด

เมตฟอร์มินทำงานอย่างไร และเกี่ยวข้องกับไตอย่างไร?

เมตฟอร์มินมีกลไกการทำงานหลักคือการลดการสร้างน้ำตาลจากตับ เพิ่มความไวต่ออินซูลินของร่างกาย และชะลอการดูดซึมกลูโคสจากลำไส้ ยาจะถูกขับออกจากร่างกายทางไต ดังนั้น หากไตทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เมตฟอร์มินอาจสะสมในกระแสเลือดมากขึ้น

ภาวะกรดแลคติก: ความเสี่ยงที่ต้องระวัง

เมื่อเมตฟอร์มินสะสมในร่างกายมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีภาวะไตบกพร่อง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า ภาวะกรดแลคติก (Lactic Acidosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีกรดแลคติกสูงเกินไป อาการของภาวะกรดแลคติกอาจรวมถึง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย หายใจเร็ว หรือหมดสติ ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน

ใครควรระมัดระวังการใช้เมตฟอร์มินเป็นพิเศษ?

  • ผู้ป่วยโรคไต: ผู้ที่มีค่าการทำงานของไต (eGFR) ต่ำกว่าปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้เมตฟอร์มิน หรือปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับสภาพไต
  • ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุมักมีความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ รวมถึงไต ดังนั้นการใช้เมตฟอร์มินในผู้สูงอายุควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  • ผู้ที่เข้ารับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ที่ใช้สารทึบรังสี: สารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจบางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตชั่วคราว จึงควรงดใช้เมตฟอร์มินก่อนและหลังการตรวจตามคำแนะนำของแพทย์
  • ผู้ที่มีภาวะขาดน้ำ: ภาวะขาดน้ำอาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างการใช้เมตฟอร์มิน

ข้อควรปฏิบัติเมื่อใช้เมตฟอร์มิน

  • ปรึกษาแพทย์: แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ทั้งหมดของคุณ รวมถึงโรคประจำตัว ยาที่กำลังใช้อยู่ และผลการตรวจการทำงานของไต
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง: ห้ามปรับขนาดยาเองโดยเด็ดขาด
  • สังเกตอาการผิดปกติ: หากมีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือหายใจเร็ว ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ไตทำงานได้ดี และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำ

สรุป

เมตฟอร์มินเป็นยาที่มีประโยชน์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ผู้ที่มีภาวะไตผิดปกติหรือมีความเสี่ยงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาอย่างรอบคอบ การดูแลสุขภาพไตให้แข็งแรง การรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ และการสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด คือกุญแจสำคัญในการใช้เมตฟอร์มินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ