หลอดเก็บเลือดแต่ละสีต่างกันอย่างไร

หลอดเก็บเลือดแต่ละสีต่างกันอย่างไร?

การเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อการตรวจทางการแพทย์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ความแตกต่างของหลอดเก็บเลือดแต่ละสีสะท้อนให้เห็นถึงสารเคมีที่บรรจุอยู่ภายใน สารเหล่านี้จะช่วยรักษาคุณภาพของเลือด ป้องกันการแข็งตัว และเตรียมตัวอย่างให้เหมาะสมกับการตรวจวิเคราะห์ ดังนั้น การเลือกใช้หลอดเก็บเลือดที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการให้ผลการตรวจที่ถูกต้องแม่นยำ

สีของหลอดเก็บเลือดแต่ละชนิดบ่งบอกถึงสารกันเลือดแข็งตัวที่บรรจุอยู่ สารเหล่านี้มีหน้าที่สำคัญในการป้องกันการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการแข็งตัวของเลือดอาจส่งผลให้ผลการวิเคราะห์ผิดพลาดได้ หลอดเก็บเลือดแต่ละชนิดจึงได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง

ยกตัวอย่างเช่น หลอดเก็บเลือดสีเขียวเข้ม มักบรรจุสารเฮปารินลิเธียม สารเฮปารินลิเธียมมีคุณสมบัติในการยับยั้งการแข็งตัวของเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เหมาะสำหรับการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกและชีวเคมี เช่น การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ไขมัน อิเล็กโทรไลต์ และสารเคมีอื่นๆ ในเลือด ด้วยการใช้สารเฮปารินลิเธียม จะช่วยให้ผลการตรวจวัดอิออนต่างๆ ในเลือดมีความแม่นยำ และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในระหว่างการเก็บรักษาตัวอย่าง ทำให้การขนส่งและการเก็บรักษาง่ายขึ้น

นอกเหนือจากหลอดเก็บเลือดสีเขียวเข้ม ยังมีหลอดเก็บเลือดสีอื่นๆ อีกมากมายที่มีสารกันเลือดแข็งตัวที่แตกต่างกันออกไป เช่น หลอดเก็บเลือดสีม่วง ซึ่งมักบรรจุสาร EDTA เหมาะสำหรับการตรวจนับเม็ดเลือดและการตรวจหาตัวอย่างอื่นๆ หรือหลอดเก็บเลือดสีแดง ซึ่งไม่บรรจุสารกันเลือดแข็งตัว เหมาะสำหรับการตรวจวิเคราะห์ที่ไม่ต้องการให้เลือดแข็งตัว แต่การใช้หลอดสีแดงต้องระวังการแข็งตัวของเลือดเพื่อให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำ การเลือกใช้หลอดเก็บเลือดที่ถูกต้องจึงสำคัญมาก ผู้ปฏิบัติงานควรปฏิบัติตามคำแนะนำของห้องปฏิบัติการเพื่อให้แน่ใจว่าหลอดเก็บเลือดที่เลือกใช้งานนั้นเหมาะสมกับการตรวจวิเคราะห์ที่ต้องการ

สรุปได้ว่า ความแตกต่างของหลอดเก็บเลือดแต่ละสีขึ้นอยู่กับสารกันเลือดแข็งตัวที่บรรจุอยู่ การเลือกหลอดเก็บเลือดที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้