หายใจไม่ออกต้องนอนแบบไหน

1 การดู

การนอนคว่ำหรือ Prone Position เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาหายใจลำบาก โดยช่วยประคองผู้ป่วยและเพิ่มการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอด ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) เช่น โรคปอดอักเสบรุนแรง โรคไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

นอนท่าไหนดี…เมื่อหายใจไม่ออก: เจาะลึก “ท่านอนคว่ำ” ตัวช่วยหายใจที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

เมื่อเผชิญกับภาวะหายใจไม่ออก ความรู้สึกอึดอัดทรมานนั้นคงไม่มีใครอยากสัมผัส แต่ทราบหรือไม่ว่าท่านอนที่ถูกต้องสามารถช่วยบรรเทาอาการและเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ท่านอนคว่ำ” ที่กำลังเป็นที่สนใจและถูกนำมาใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบากอย่างเฉียบพลัน

ทำไมท่านอนคว่ำจึงช่วยได้?

ในภาวะปกติ ปอดของเราจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ปอดอาจถูกกดทับหรือมีของเหลวสะสม ทำให้พื้นที่ในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง การนอนคว่ำจึงเป็นเสมือน “การปลดปล่อย” ให้ปอดส่วนหลัง (บริเวณที่มักมีพื้นที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนมากกว่า) ได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้:

  • ลดแรงกดทับต่อปอด: เมื่อนอนคว่ำ หัวใจและกระดูกสันหลังจะไม่กดทับปอดโดยตรง ทำให้ปอดขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณปอดด้านหลัง
  • ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตในปอด: การนอนคว่ำช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณปอดที่มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น ส่งผลให้การลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ระบายของเหลวออกจากปอด: ในผู้ป่วยที่มีของเหลวสะสมในปอด เช่น ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ การนอนคว่ำอาจช่วยให้ของเหลวเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กีดขวางการหายใจได้
  • ลดภาวะปอดแฟบ (Atelectasis): การนอนคว่ำช่วยป้องกันไม่ให้ถุงลมในปอดแฟบ โดยเฉพาะบริเวณปอดส่วนหลัง

ท่านอนคว่ำเหมาะกับใคร?

ท่านอนคว่ำได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) เช่น ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบรุนแรง ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์รุนแรง หรือแม้กระทั่งผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการปอดอักเสบ อย่างไรก็ตาม การนอนคว่ำอาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีข้อจำกัดดังนี้:

  • สตรีมีครรภ์: การนอนคว่ำอาจเป็นอุปสรรคและไม่สบายตัวสำหรับสตรีมีครรภ์
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง: การนอนคว่ำอาจทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณกระดูกสันหลังและอาการปวดหลัง
  • ผู้ที่มีแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง: การนอนคว่ำอาจทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณแผลและทำให้เกิดความเจ็บปวด
  • ผู้ที่มีภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง: การนอนคว่ำอาจเพิ่มความดันในกะโหลกศีรษะ

ข้อควรระวังและคำแนะนำ:

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการหายใจไม่ออก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม การนอนคว่ำควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

  • ระยะเวลา: ระยะเวลาในการนอนคว่ำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแนะนำให้นอนคว่ำประมาณ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน โดยแบ่งเป็นช่วงๆ
  • การจัดท่า: ควรจัดท่าให้เหมาะสม โดยอาจใช้หมอนรองบริเวณหน้าอกและสะโพกเพื่อลดแรงกดทับ และควรพลิกตัวเป็นระยะเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ
  • การสังเกตอาการ: ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจถี่ขึ้น เจ็บหน้าอก หรือมีอาการปวดหลัง ควรแจ้งให้แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ทราบทันที

บทสรุป:

ท่านอนคว่ำเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการหายใจไม่ออกและเพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน อย่างไรก็ตาม การนอนคว่ำควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา

Disclaimer: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวินิจฉัยหรือรักษาโรค หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม