อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบมีอะไรบ้าง

2 การดู

อาการโรคกระเพาะอาหารอักเสบอาจแสดงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจมีอาการแสบร้อนกลางอกร่วมกับแน่นท้อง รู้สึกอิ่มเร็วผิดปกติ หรือมีอาการคลื่นไส้หลังรับประทานอาหารรสจัด ในบางกรณีอาจมีอาการท้องเสียหรือท้องผูกสลับกัน ควรพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น อย่ารักษาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ: อาการที่ต้องสังเกต และเมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นภาวะที่เยื่อบุกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง อาการของโรคนี้มีความหลากหลาย และแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทำให้หลายครั้งยากต่อการวินิจฉัยด้วยตนเอง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงอาการที่พบบ่อยของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเมื่อไหร่ที่คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

อาการที่พบบ่อยของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ:

  • แสบร้อนกลางอก (Heartburn): อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก อาจลามขึ้นมาถึงลำคอ ซึ่งมักเกิดหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีรสจัด เผ็ด หรือมัน
  • แน่นท้อง (Bloating): รู้สึกอึดอัด ไม่สบายท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป
  • อิ่มเร็วผิดปกติ: รู้สึกอิ่มทั้งๆ ที่รับประทานอาหารไปได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้ไม่อยากอาหารและน้ำหนักลดลง
  • คลื่นไส้ (Nausea) และอาเจียน (Vomiting): อาการคลื่นไส้อาจเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งในขณะท้องว่าง บางรายอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
  • ปวดท้อง (Abdominal Pain): ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นอาการปวดแบบจุกเสียด ปวดแสบ ปวดตุบๆ หรือปวดเมื่อย
  • ท้องเสีย (Diarrhea) หรือท้องผูก (Constipation) สลับกัน: ระบบขับถ่ายอาจผิดปกติ มีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูก
  • เบื่ออาหาร (Loss of Appetite): ไม่อยากรับประทานอาหาร รู้สึกไม่มีความอยากอาหาร
  • เรอ (Belching): เรอบ่อยครั้งเพื่อระบายลมในกระเพาะอาหาร
  • อุจจาระดำ (Black Stools): หากมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร อาจทำให้อุจจาระมีสีดำคล้ำคล้ายยางมะตอย ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์:

อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบอาจคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ ในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง คุณควรพบแพทย์หาก:

  • อาการเป็นรุนแรง และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • อาการไม่ดีขึ้นหลังจากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว
  • มีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระดำ
  • มีอาการปวดท้องรุนแรง และไม่สามารถทนได้
  • มีน้ำหนักลดลงโดยไม่มีสาเหตุ
  • มีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือซีด

สิ่งที่ไม่ควรทำ:

  • อย่ารักษาตัวเอง: การรักษาด้วยยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้อาการแย่ลง หรือปิดบังอาการที่แท้จริงของโรค
  • อย่าละเลยอาการ: หากมีอาการที่น่าสงสัย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ

สรุป:

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นภาวะที่พบบ่อย แต่สามารถจัดการได้ด้วยการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการรักษาที่เหมาะสม การสังเกตอาการของตนเอง และปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง