อาการของโรคลิ่มเลือดอุดตันมีอะไรบ้าง

3 การดู

อาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดอาจเริ่มจากไอแห้ง เจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึก หรือไอเป็นเลือด บางรายอาจมีอาการหายใจถี่ หัวใจเต้นเร็ว และรู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าชะล่าใจ เพราะภาวะนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ลิ่มเลือดอุดตันภัยเงียบที่ต้องรู้ อาการที่บอกถึงความผิดปกติในร่างกาย

ลิ่มเลือดอุดตัน เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดจับตัวเป็นก้อนในหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หรืออุดตันการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายได้ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายส่วนของร่างกาย และแต่ละตำแหน่งก็แสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป การสังเกตอาการเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงชีวิต

อาการที่พึงสังเกตตามตำแหน่งที่เกิดลิ่มเลือด:

  • ลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary Embolism – PE): ภาวะนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากลิ่มเลือดหลุดจากส่วนอื่นของร่างกาย (เช่น ขา) และเดินทางไปยังปอด อาการที่มักพบได้แก่:

    • ไอแห้งๆ เรื้อรัง: อาการไอที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด และอาจเป็นต่อเนื่อง
    • เจ็บหน้าอก: โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหายใจลึกๆ หรือไอ
    • ไอเป็นเลือด: แม้จะเป็นปริมาณน้อยก็ต้องรีบพบแพทย์
    • หายใจถี่: รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด แม้ในขณะพัก
    • หัวใจเต้นเร็ว: หัวใจเต้นแรงและเร็วกว่าปกติ
    • เหนื่อยล้าผิดปกติ: อ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ หรือเหนื่อยง่ายกว่าที่เคยเป็น
    • เวียนศีรษะ หรือหมดสติ: ในกรณีที่รุนแรง
      สำคัญมาก: หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
  • ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis – DVT): มักเกิดขึ้นที่ขา แต่ก็สามารถเกิดที่แขนได้เช่นกัน อาการที่สังเกตได้คือ:

    • บวม: ขาหรือแขนข้างใดข้างหนึ่งบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว
    • ปวด: ปวดเมื่อยหรือปวดบีบบริเวณที่บวม
    • แดงและอุ่น: ผิวหนังบริเวณที่บวมอาจมีสีแดงและรู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัส
    • คลำเจอก้อนแข็ง: อาจคลำเจอก้อนแข็งใต้ผิวหนังบริเวณที่ปวด
  • ลิ่มเลือดอุดตันในสมอง (Stroke): เป็นภาวะที่ร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาทันที อาการที่บ่งบอกถึงภาวะนี้ได้แก่:

    • อ่อนแรงหรือชา: อ่อนแรงหรือชาบริเวณใบหน้า แขน หรือขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างใดข้างหนึ่ง
    • พูดลำบาก: พูดไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูด
    • มองเห็นภาพซ้อน: มองเห็นภาพไม่ชัด หรือมองเห็นภาพซ้อน
    • ปวดศีรษะรุนแรง: ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ
    • เสียสมดุล: เดินเซ หรือทรงตัวไม่ได้
  • ลิ่มเลือดอุดตันในหัวใจ (Heart Attack): ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ อาการที่สำคัญได้แก่:

    • เจ็บหน้าอก: เจ็บแน่น หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่หน้าอก
    • เจ็บร้าว: อาการเจ็บอาจร้าวไปที่แขน ไหล่ คอ หรือกราม
    • หายใจถี่: หายใจลำบาก
    • เหงื่อออก: เหงื่อออกมากผิดปกติ
    • คลื่นไส้ หรืออาเจียน:

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน:

  • การผ่าตัด: โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดใหญ่
  • การเดินทางระยะไกล: การนั่งเครื่องบินหรือรถยนต์เป็นเวลานาน
  • การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร
  • การใช้ยาคุมกำเนิด: โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง
  • โรคบางชนิด: เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
  • อายุ: อายุมากขึ้นมีความเสี่ยงมากขึ้น
  • การสูบบุหรี่:
  • ภาวะอ้วน:

การป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน:

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:
  • ควบคุมน้ำหนัก:
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ:
  • เลิกสูบบุหรี่:
  • ปรึกษาแพทย์: หากมีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

สรุป:

ลิ่มเลือดอุดตันเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตได้ การสังเกตอาการผิดปกติในร่างกาย และการเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณมีอาการที่น่าสงสัย หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

คำเตือน: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง