อาการของ ADH ต่ําคืออะไร

2 การดู

ภาวะฮอร์โมน ADH ต่ำทำให้ร่างกายขับน้ำออกมากเกินไป ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยและใสมาก ผู้ป่วยจะรู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรง และอาจมีอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์โดยเร็ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะฮอร์โมน ADH ต่ำ: เมื่อร่างกายร้องขอแต่น้ำไม่หยุดไหล

ภาวะฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก (Antidiuretic Hormone – ADH) ต่ำ หรือที่เรียกว่า ภาวะไดแอเบทส์อินซิพิทัส (Diabetes Insipidus) เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการผลิตฮอร์โมน ADH ไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน ADH อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมการขับน้ำได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่การขับปัสสาวะมากเกินปกติ และอาการต่างๆ ที่เป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

แตกต่างจากโรคเบาหวานประเภทที่ 1 และ 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ภาวะ ADH ต่ำนั้นเกี่ยวข้องกับการควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายโดยตรง ADH มีหน้าที่หลักในการควบคุมการดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่กระแสเลือดในไต เมื่อระดับ ADH ต่ำ ไตจะไม่สามารถดูดซึมน้ำกลับมาได้อย่างเพียงพอ จึงทำให้ขับปัสสาวะออกมาเป็นปริมาณมาก แม้ว่าจะดื่มน้ำเพียงเล็กน้อยก็ตาม

อาการเด่นชัดของภาวะ ADH ต่ำ:

  • ปัสสาวะบ่อยและมาก: นี่คืออาการหลักที่สังเกตได้ง่าย ผู้ป่วยจะต้องปัสสาวะบ่อยมากตลอดทั้งวันและคืน ปริมาณปัสสาวะแต่ละครั้งก็มาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ปัสสาวะมักจะมีลักษณะใสและเจือจาง
  • กระหายน้ำอย่างรุนแรง (Polydipsia): เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยจึงรู้สึกกระหายน้ำอย่างมาก ดื่มน้ำบ่อยและในปริมาณมาก เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ
  • เวียนศีรษะและอ่อนเพลีย: การสูญเสียน้ำมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
  • ขาดน้ำ (Dehydration): หากไม่ได้รับการรักษา ภาวะขาดน้ำอาจรุนแรงขึ้น นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว และภาวะช็อก
  • ภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติ: การสูญเสียน้ำมากเกินไปอาจทำให้สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายเสียไป โดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

การวินิจฉัยและรักษา:

การวินิจฉัยภาวะ ADH ต่ำ แพทย์จะตรวจสอบประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจวัดความเข้มข้นของปัสสาวะ การตรวจวัดระดับฮอร์โมน ADH และการทดสอบการกระตุ้นด้วยน้ำ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะ ADH ต่ำ อาจรวมถึงการรับประทานยา เช่น ยาเดสมอเพรสซิน (desmopressin) เพื่อทดแทนฮอร์โมน ADH ที่ร่างกายขาดไป

หากคุณมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและรักษาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง อย่าพยายามวินิจฉัยหรือรักษาตนเอง