อาการตัวบวมเกิดจากสาเหตุอะไร

5 การดู

ภาวะเซลล์บวมน้ำ (Cellular edema) เกิดจากความผิดปกติในการควบคุมของเหลวภายในเซลล์ ทำให้ของเหลวไหลเข้าเซลล์มากเกินไป ส่งผลให้เซลล์บวมโตขึ้น อาการอาจแสดงเป็นบวมเฉพาะที่หรือทั่วร่างกาย ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรง ควรพบแพทย์หากมีอาการบวมอย่างผิดปกติหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการตัวบวม: สาเหตุและความเข้าใจเบื้องต้น

อาการตัวบวม (Edema) เป็นภาวะที่พบได้บ่อย และอาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยที่ควรมองข้าม การเข้าใจสาเหตุเบื้องหลังจะช่วยให้เราระบุปัญหาได้อย่างถูกต้องและรับมือกับอาการได้อย่างเหมาะสม

โดยทั่วไป อาการตัวบวมเกิดจากความไม่สมดุลของของเหลวในร่างกาย เมื่อมีของเหลวสะสมมากเกินไปในช่องว่างระหว่างเซลล์หรือภายในเซลล์ ก็จะทำให้เกิดอาการบวมได้ ความผิดปกติเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเซลล์ ไปจนถึงระดับระบบในร่างกาย

สาเหตุหลักของอาการตัวบวมแบ่งได้เป็นหลายประเภท:

  • ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต: ปัญหาเรื่องการไหลเวียนโลหิตไม่ดี เช่น การไหลเวียนเลือดไม่เพียงพอ การบาดเจ็บที่หลอดเลือดดำ หรือการอุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้ของเหลวสะสมในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ อาการบวมอาจพบได้ในบริเวณเท้า ข้อเท้า หรือแขนขา

  • ภาวะไตทำงานผิดปกติ: ไตเป็นอวัยวะสำคัญในการควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย เมื่อไตทำงานผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายกำจัดของเหลวได้ไม่เพียงพอ นำไปสู่การสะสมของของเหลวในร่างกายและอาการบวม

  • ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์: ต่อมไทรอยด์ควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์อาจส่งผลต่อสมดุลของของเหลว และอาจทำให้เกิดอาการตัวบวมได้

  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการบวมเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อการติดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบและการสะสมของของเหลว อาการบวมอาจพบร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวด บวม แดง ร้อน

  • การดื่มน้ำมากเกินไป: แม้ว่าการดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ แต่การดื่มน้ำมากเกินไปก็อาจทำให้ของเหลวสะสมและส่งผลให้เกิดอาการบวมได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง

  • การแพ้: ปฏิกิริยาการแพ้บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการบวมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ อาการบวมอาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต (แอนาฟิแล็กซิส)

อาการตัวบวมบางครั้งอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรง ดังนั้นหากคุณมีอาการบวมที่ผิดปกติ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวด บวม แดง ร้อน ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด

บทความนี้มีไว้เพื่อความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการวินิจฉัยหรือการรักษา การวินิจฉัยโรคและการรักษาควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขอแนะนำให้คุณพบแพทย์หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ