อาการบวมมีกี่แบบ

อาการบวม: การจำแนกประเภทและสาเหตุ

อาการบวม (Edema) เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อมีของเหลวสะสมมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการบวมได้ในหลายส่วนของร่างกาย อาการบวมไม่ใช่โรค แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่อาจอยู่เบื้องหลัง การทำความเข้าใจประเภทและสาเหตุของอาการบวมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

อาการบวมแบ่งประเภทได้หลายวิธี การจำแนกที่พบมากที่สุด คือ:

• บวมทั่วร่างกาย (Generalized edema) หรือ บวมทั่วไป: อาการบวมชนิดนี้มักเห็นได้ชัดเจนในบริเวณขา เท้า และข้อเท้า โดยเฉพาะในตอนเช้า สาเหตุอาจมาจากโรคไต โรคหัวใจ โรคตับ หรือการใช้ยาบางชนิด นอกจากนี้ ภาวะขาดโปรตีนในร่างกายก็สามารถทำให้เกิดอาการบวมทั่วร่างกายได้เช่นกัน

• บวมเฉพาะที่ (Localized edema): อาการบวมชนิดนี้เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย เช่น บริเวณข้อเท้า ข้อเข่า หรือแขน สาเหตุอาจเกิดจากการบาดเจ็บ การอักเสบ การติดเชื้อ หรือภาวะอื่นๆ เช่น การอุดตันของหลอดเลือด โดยทั่วไปอาการบวมเฉพาะที่มักสัมพันธ์กับสาเหตุที่เฉพาะเจาะจงที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น

• บวมอุ้น (Pitting edema): เป็นชนิดของอาการบวมที่สามารถกดลงบนผิวหนังแล้วทำให้เกิดรอยบุ๋มลงไป รอยบุ๋มนั้นจะคงอยู่สักครู่หลังจากที่หยุดกดแล้ว บวมอุ้นมักสัมพันธ์กับภาวะที่ของเหลวในเส้นเลือดฝอยรั่วซึมออกมามากเกินไป ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและโรคไต

นอกเหนือจากประเภทข้างต้น ยังมีอาการบวมชนิดอื่นๆ เช่น บวมจากการอักเสบอย่างเฉียบพลัน (acute inflammation) อาการบวมที่เกิดจากการแพ้ หรือบวมที่เกิดจากความผิดปกติของระบบน้ำเหลือง อาการเหล่านี้สามารถเกิดจากสาเหตุหลายประการและมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป การเข้าใจอาการบวมโดยรวมจึงจำเป็นต้องพิจารณาประวัติสุขภาพของผู้ป่วย ลักษณะของอาการบวม ตำแหน่งที่บวม และปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย

สิ่งสำคัญ: บทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น หากคุณมีอาการบวมหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง การวินิจฉัยและการรักษาอาการบวมต้องทำอย่างระมัดระวังและถูกต้องตามหลักการทางการแพทย์