แขนขาบวมเกิดจากสาเหตุอะไร

บวมตรงขา… บอกอะไรคุณ? สาเหตุ บ่งบอกปัญหาสุขภาพ

ขาบวม อาจเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ การสังเกตอาการบวมและสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพตัวเอง

สาเหตุของขาบวม:

• ภาวะหลอดเลือดดำไม่สมบูรณ์: หลอดเลือดดำในขาทำงานผิดปกติ ทำให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจช้า เกิดการคั่งของเลือดในขา จึงเกิดอาการบวม นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดขา รู้สึกหนักขา หรือมีเส้นเลือดขอด
• การติดเชื้อ: การติดเชื้อในขา เช่น ฝี หรือ เซลลูไลติส ทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และเจ็บ
• โรคไต: ไตทำงานผิดปกติ ทำให้ร่างกายขับของเสียออกจากเลือดไม่หมด เกิดการสะสมของของเหลวในร่างกาย จึงทำให้ขาบวม
• โรคหัวใจ: โรคหัวใจ ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ เกิดการคั่งของเลือดในขา จึงทำให้ขาบวม
• การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์ทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง และฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ขาบวม โดยเฉพาะในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์
• ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบ ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง อาจทำให้ขาบวม
• ภาวะน้ำเกิน: การดื่มน้ำมากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีเกลือสูง อาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้มากเกินไป จึงทำให้ขาบวม

ควรปรึกษาแพทย์เมื่อใด?

• ขาบวมรุนแรง
• ขาบวมนานผิดปกติ
• มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวด บวมแดง มีไข้ หรือหายใจลำบาก
• ขาบวมมีสาเหตุไม่ทราบ

การวินิจฉัยและรักษาขาบวมขึ้นอยู่กับสาเหตุของการบวม แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ประวัติการเจ็บป่วย และอาจทำการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือการตรวจอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุของอาการบวม

การดูแลตัวเอง:

• พักผ่อนขาให้สูงกว่าระดับหัวใจ
• นวดขาเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
• สวมใส่ถุงน่องหรือเสื้อรัดรูปเพื่อช่วยลดการบวม
• งดรับประทานอาหารที่มีเกลือสูง
• ดื่มน้ำมากๆ

การสังเกตอาการขาบวมและปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ ถือเป็นการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ