อาการเบาหวานลงเป็นยังไง

6 การดู

โรคเบาหวานระยะเริ่มแรกอาจไม่แสดงอาการชัดเจน แต่บางรายอาจพบอาการผิดปกติ เช่น แผลหายช้า ติดเชื้อบ่อย คันตามผิวหนัง หรือมีอาการชาเฉพาะที่บริเวณปลายนิ้วมือหรือเท้าเล็กน้อย หากพบอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด การตรวจคัดกรองเป็นประจำสำคัญต่อการควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานลง…สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมมองข้าม

โรคเบาหวาน ถือเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยในคนไทย เกิดจากความผิดปกติของร่างกายในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แม้โรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี รวมถึงการสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ จะช่วยชะลอความรุนแรงของโรค ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

“เบาหวานลง” คืออะไร?

คำว่า “เบาหวานลง” อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า เป็นภาวะที่โรคเบาหวานกำลังดีขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะภาวะนี้หมายถึง ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ ที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไปต่างหาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สัญญาณเตือน “เบาหวานลง” ที่ไม่ควรมองข้าม

ในระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยเบาหวานมักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย จนอาจมองข้ามไป ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคน ตรวจพบโรคนี้ช้าเกินไป ดังนั้น การสังเกตความผิดปกติของร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย โดยสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกถึงภาวะ “เบาหวานลง” ได้แก่

  • แผลหายช้า: ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด และประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้แผลหายยาก ติดเชื้อได้ง่าย
  • ติดเชื้อบ่อย: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง เป็นอาหารชั้นดีของเชื้อโรค ทำให้ร่างกายติดเชื้อง่าย โดยเฉพาะบริเวณผิวหนัง ทางเดินปัสสาวะ และช่องคลอด
  • คันตามผิวหนัง: ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ผิวหนังแห้ง ระคายเคือง และเกิดอาการคันได้ง่าย
  • ชาปลายมือปลายเท้า: ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย โดยเฉพาะบริเวณปลายมือและเท้า ทำให้มีอาการชา รู้สึกเหมือนเข็มทิ่ม หรือไวต่อการสัมผัส
  • กระหายน้ำบ่อย: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย และรู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา
  • หิวบ่อย น้ำหนักลด: ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย หิวบ่อย และน้ำหนักลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

อย่านิ่งเฉย รีบพบแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ

อาการต่างๆ ที่กล่าวมา อาจไม่ได้บ่งชี้ว่าคุณเป็นโรคเบาหวานเสมอไป แต่หากพบว่าตัวเองมีความเสี่ยง เช่น มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีภาวะอ้วน หรือมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง วินิจฉัย และรับการรักษาอย่างถูกวิธี

การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้

อย่าลืมว่า การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ!