อาหารเป็นพิษจะหายภายในกี่วัน

อาหารเป็นพิษจะหายภายในกี่วัน? และวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น

อาหารเป็นพิษ หรือที่เรียกกันว่า โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต อาการที่พบบ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และบางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย ระยะเวลาที่อาหารเป็นพิษจะหายขาดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของเชื้อโรค ปริมาณเชื้อที่ได้รับ สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และการดูแลรักษา

โดยทั่วไป อาการของอาหารเป็นพิษมักจะเริ่มปรากฏภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน และส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน สำหรับบางรายอาการอาจยาวนานถึง 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ

การดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ:

• จิบสารละลายเกลือแร่ ORS บ่อยๆ: การอาเจียนและท้องเสียทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว การจิบ ORS จะช่วยชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปและป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
• พักผ่อนให้เพียงพอ: ร่างกายต้องการพลังงานในการต่อสู้กับเชื้อโรค การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
• รับประทานอาหารอ่อนๆ เมื่อรู้สึกดีขึ้น: เริ่มจากอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก กล้วยสุก ขนมปังปิ้ง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง
• สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด: หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น อาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง มีไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง อุจจาระมีเลือดปน หรือมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง กระหายน้ำมาก ปัสสาวะน้อยลง ควรปรึกษาแพทย์ทันที

สิ่งสำคัญ: แม้ว่าอาหารเป็นพิษส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ในบางกรณีที่อาการรุนแรงหรือเกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ ดังนั้น หากอาการยาวนานกว่า 48 ชั่วโมง หรือมีอาการที่น่ากังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง อย่าซื้อยามารับประทานเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

การป้องกันอาหารเป็นพิษสามารถทำได้โดยการรักษาความสะอาดในการประกอบอาหาร ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร เลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกไม่ทั่วถึง หรืออาหารที่เก็บไว้นานเกินไป