เบาหวานลงขาอันตรายไหม

7 การดู

ผู้ป่วยเบาหวานควรใส่ใจเป็นพิเศษกับสุขภาพเท้า เพราะภาวะน้ำตาลสูงเรื้อรังอาจทำลายระบบประสาทและหลอดเลือด ทำให้เท้าชา ไร้ความรู้สึก และเสี่ยงต่อการเกิดแผลที่หายยาก การดูแลเท้าอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบความผิดปกติ และปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นต้องตัดเท้า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานลงขา: ภัยเงียบที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องตระหนัก และวิธีรับมืออย่างชาญฉลาด

ภาวะเบาหวานลงขา หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า “Diabetic Foot” เป็นภาวะแทรกซ้อนที่น่ากังวลและพบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานส่งผลร้ายต่อระบบประสาทและหลอดเลือด โดยเฉพาะบริเวณเท้า ทำให้เกิดอาการชา ไร้ความรู้สึก และการไหลเวียนโลหิตที่เท้าลดลง ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

ทำไมเบาหวานถึง “ลงขา” และอันตรายอย่างไร?

หัวใจสำคัญของปัญหาอยู่ที่ผลกระทบของน้ำตาลในเลือดที่สูงต่อระบบประสาทและหลอดเลือดดังนี้

  • เส้นประสาทถูกทำลาย (Diabetic Neuropathy): น้ำตาลในเลือดสูงเป็นเหมือนยาพิษที่ค่อยๆ กัดกินเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทบริเวณเท้าสูญเสียความสามารถในการส่งสัญญาณความรู้สึก เมื่อเท้าชาหรือไม่รู้สึกเจ็บ ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวว่ามีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยถลอก รอยขีดข่วน หรือแม้กระทั่งเหยียบของมีคม ทำให้แผลเล็กๆ เหล่านี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

  • หลอดเลือดตีบแคบ (Peripheral Artery Disease): น้ำตาลในเลือดสูงทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบลง ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณเท้าไม่เพียงพอ การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีทำให้บาดแผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเนื้อเยื่อตายได้

ความอันตรายของเบาหวานลงขา:

ภาวะเบาหวานลงขาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก ได้แก่

  • แผลเรื้อรัง: แผลที่เท้าหายยาก เนื่องจากการไหลเวียนโลหิตไม่ดีและการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อช้า

  • การติดเชื้อ: แผลเปิดเป็นประตูให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

  • เนื้อตายเน่า (Gangrene): เมื่อเนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยงเป็นเวลานาน จะทำให้เนื้อเยื่อตายและเน่า ซึ่งอาจจำเป็นต้องตัดเท้าหรือขาเพื่อป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อ

  • การสูญเสียอวัยวะ (Amputation): ในกรณีที่รุนแรง แผลติดเชื้อรุนแรง หรือเนื้อตายเน่า การตัดเท้าหรือขาอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อรักษาชีวิต

วิธีรับมือกับเบาหวานลงขาอย่างชาญฉลาด:

การป้องกันและการดูแลเท้าอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานลงขา

  1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการรับประทานยา การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย

  2. ตรวจเท้าทุกวัน: สังเกตความผิดปกติ เช่น รอยแดง รอยบวม แผล พุพอง หรือผิวหนังแห้งแตก หากมองไม่เห็นฝ่าเท้า ให้ใช้กระจกช่วย หรือให้คนในครอบครัวช่วยดู

  3. ทำความสะอาดเท้าอย่างอ่อนโยน: ล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ ทุกวัน ซับเท้าให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้ว

  4. ทาครีมบำรุงผิว: ใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นแก่เท้า เพื่อป้องกันผิวแห้งแตก

  5. ตัดเล็บอย่างถูกวิธี: ตัดเล็บตรงๆ ไม่ตัดลึกจนเกินไป เพื่อป้องกันเล็บขบ

  6. สวมถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสม: สวมถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าขนสัตว์ที่ระบายอากาศได้ดี และสวมรองเท้าที่ใส่สบาย ไม่อับชื้น และไม่มีตะเข็บที่อาจเสียดสีเท้า

  7. หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า: ป้องกันการเกิดบาดแผลจากของมีคมหรือพื้นผิวที่ขรุขระ

  8. ปรึกษาแพทย์: พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวานหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเท้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเท้าและรับคำแนะนำในการดูแลเท้า

บทสรุป:

เบาหวานลงขาเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย แต่สามารถป้องกันและจัดการได้หากผู้ป่วยเบาหวานตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลเท้าอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจเท้าอย่างสม่ำเสมอ และการปรึกษาแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ คือกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพเท้าและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเบาหวาน