เป็นไข้แล้วปวดตามข้อเกิดจากอะไร

สาเหตุของอาการไข้และปวดข้อ

อาการไข้ร่วมกับปวดข้ออาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ได้แก่

1. โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่แพร่กระจายโดยยุงลาย อาการของโรคไข้เลือดออก ได้แก่ ไข้สูง ปวดข้อ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และจุดเลือดออกเล็กๆ บนผิวหนัง หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

2. ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการไข้ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหลได้ อาการของไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาและอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

3. โรคข้ออักเสบ

โรคข้ออักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน อาจทำให้เกิดอาการปวดข้อและไข้ได้ โรคข้ออักเสบเป็นภาวะเรื้อรังที่ทำให้ข้ออักเสบและปวดได้

4. การติดเชื้อแบคทีเรีย

การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อซัลโมเนลลาและเชื้อชิเกลลา อาจทำให้เกิดอาการไข้และปวดข้อได้ การติดเชื้อเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ เช่น ท้องร่วง ปวดท้อง และคลื่นไส้

แนวทางการรักษา

การรักษาอาการไข้และปวดข้อขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ หากสาเหตุคือโรคไข้เลือดออก แพทย์อาจสั่งยาเพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวดข้อ หากสาเหตุคือไข้หวัดใหญ่ แพทย์อาจสั่งยาต้านไวรัสเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัส

สำหรับผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ แพทย์จะสั่งยาเพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด หากสาเหตุคือการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดแบคทีเรีย

การป้องกัน

เพื่อป้องกันการเกิดอาการไข้และปวดข้อที่เกิดจากโรคต่างๆ สามารถทำได้โดย:

• หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด โดยใช้ยากันยุง สวมเสื้อผ้าแขนยาว และติดมุ้ง
• ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• รับประทานอาหารที่ปรุงสุกดีแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากอาหาร
• รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่
• ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ