เลือดจางต้องกี่%

2 การดู

การตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจางในเด็กเล็กควรเริ่มตั้งแต่ 9-12 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงเสี่ยง ค่าฮีโมโกลบินต่ำกว่า 11 กรัม/เดซิลิตร หรือค่าฮีมาโตคริตต่ำกว่า 33% ถือว่าเป็นโลหิตจาง หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพียงพอช่วยลดความเสี่ยงได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เลือดจางต้องกี่เปอร์เซ็นต์? มากกว่าตัวเลข…คือการเข้าใจสาเหตุและการดูแล

คำถาม “เลือดจางต้องกี่เปอร์เซ็นต์?” ดูเหมือนจะตรงไปตรงมา แต่คำตอบนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์เพียงอย่างเดียว มันซับซ้อนกว่านั้น เพราะการวินิจฉัยภาวะโลหิตจางไม่ได้พิจารณาเพียงค่าตัวเลขอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ อาการที่แสดง และประวัติสุขภาพ

ตัวเลขที่มักถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบภาวะโลหิตจางคือ ค่าฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) และค่าฮีมาโตคริต (Hematocrit) ค่าฮีโมโกลบิน คือ ปริมาณฮีโมโกลบินในเลือด ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ส่วนค่าฮีมาโตคริต คือ เปอร์เซ็นต์ของปริมาตรเลือดทั้งหมดที่เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง

สำหรับเด็กเล็ก อายุ 9-12 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลหิตจาง ค่าฮีโมโกลบินต่ำกว่า 11 กรัม/เดซิลิตร หรือค่าฮีมาโตคริตต่ำกว่า 33% ถือว่าเป็นภาวะโลหิตจาง แต่สำหรับกลุ่มอายุอื่นๆ ค่าเหล่านี้อาจแตกต่างกันออกไป แพทย์จะใช้เกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุและเพศในการวินิจฉัย

สำคัญคือ การมีค่าฮีโมโกลบินและฮีมาโตคริตต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ได้หมายความว่าเป็นโลหิตจางเสมอไป อาจมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ค่าเหล่านี้ต่ำลงได้ เช่น การสูญเสียเลือดจากการบาดเจ็บ การมีโรคเรื้อรังบางชนิด หรือการขาดสารอาหารบางชนิด แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจนับเม็ดเลือด การตรวจดูขนาดและรูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมถึงการสอบถามประวัติสุขภาพอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของภาวะเลือดจาง

ดังนั้น การรู้เพียงแค่ค่าเปอร์เซ็นต์ของฮีโมโกลบินและฮีมาโตคริตที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเป็นโลหิตจาง การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบถ้วน โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียว เป็นการป้องกันภาวะโลหิตจางได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ทุกกรณี บางกรณีจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา หรือการแก้ไขปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลหิตจาง

อย่าลืมว่า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ การตรวจสุขภาพประจำปี และการสังเกตอาการผิดปกติในร่างกาย เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อป้องกันและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ