โรคจากการทํางานมีกี่โรค

5 การดู

อาชีพเสี่ยงภัยสุขภาพก่อให้เกิดโรคหลากหลาย เช่น โรคระบบทางเดินหายใจจากการสัมผัสสารเคมีในโรงงานสิ่งทอ โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารระคายเคืองในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง รวมถึงอาการปวดหลังเรื้อรังจากการทำงานในท่าทางไม่ถูกต้อง การป้องกันที่ดีเริ่มจากการใช้เครื่องมือป้องกันส่วนบุคคลและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคจากการทำงาน: มากกว่าที่คุณคิด

เราทุกคนรู้ว่าการทำงานหนักอาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้า แต่รู้หรือไม่ว่าการทำงานบางประเภทสามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้หลากหลายชนิด? คำถามที่ว่า “โรคจากการทำงานมีกี่โรค” นั้นไม่มีคำตอบที่แน่นอน เนื่องจากจำนวนโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงชนิดของงาน สภาพแวดล้อมการทำงาน และระยะเวลาในการทำงาน แต่สิ่งที่แน่นอนคือมีโรคมากมายที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ และกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและรูปแบบการทำงาน

แทนที่จะนับจำนวนโรคอย่างตายตัว เราควรเข้าใจกลุ่มโรคหลักๆ ที่เกิดจากการทำงาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ตามระบบอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ เช่น:

  • โรคระบบทางเดินหายใจ: ไม่จำกัดเพียงแค่โรคปอดฝุ่น แต่รวมถึงโรคหอบหืด โรคปอดอักเสบ และมะเร็งปอด ซึ่งอาจเกิดจากการสูดดมฝุ่นละออง สารเคมี หรือเชื้อโรคในที่ทำงาน อาชีพเสี่ยง ได้แก่ คนงานเหมืองแร่ คนงานก่อสร้าง คนงานโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และแม้แต่พนักงานออฟฟิศที่ต้องเผชิญกับฝุ่นละอองหรือเชื้อราในอากาศ

  • โรคผิวหนัง: อาการแพ้ผิวหนังอักเสบ โรคผิวหนังภูมิแพ้สัมผัส หรือแม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง ล้วนเป็นผลมาจากการสัมผัสสารเคมี สารระคายเคือง หรือรังสี UV ในที่ทำงาน อาชีพเสี่ยง ได้แก่ ช่างทำผม ช่างซ่อมรถยนต์ คนงานโรงงาน และบุคลากรทางการแพทย์บางสาขา

  • โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก: อาการปวดหลังเรื้อรัง โรคข้ออักเสบ และอาการบาดเจ็บจากการทำงานซ้ำๆ (RSI) เช่น อาการอุโมงค์คาร์พัล ล้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในกลุ่มคนทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ต้องใช้ท่าทางซ้ำๆ ยกของหนัก หรือทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง

  • โรคจิตเวช: ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล ก็เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเช่นกัน ปัจจัยต่างๆ เช่น ภาระงานหนัก ความกดดัน การขาดดุลยภาพระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ล้วนส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนทำงาน

  • โรคมะเร็ง: การสัมผัสสารก่อมะเร็งในที่ทำงาน เช่น ใยหิน เบนซิน หรือสารเคมีบางชนิด สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้หลากหลายชนิด

การป้องกันโรคจากการทำงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การใช้เครื่องมือป้องกันส่วนบุคคล (PPE) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัย การออกแบบงานให้เหมาะสมกับสรีระ และการส่งเสริมสุขภาพจิตของคนทำงาน ล้วนเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหล่านี้ การตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงและการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับทุกคน

สรุปได้ว่า แทนที่จะสนใจจำนวนโรคที่แน่นอน เราควรเน้นความเข้าใจในกลุ่มโรค ปัจจัยเสี่ยง และมาตรการป้องกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและยั่งยืน เพราะสุขภาพที่ดีคือรากฐานสำคัญของการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีความสุข