โรคจากการทํางานมีอะไรบ้าง

โรคจากการทำงาน: ภัยเงียบที่คุกคามชีวิตคนวัยทำงาน

ในโลกที่การทำงานกินพื้นที่ส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันของเรา หลายคนอาจละเลยสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่ “โรคจากการทำงาน” ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โรคเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่กลุ่มคนที่ทำงานใช้แรงงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนที่ทำงานในสำนักงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอีกด้วย

นอกเหนือจากอาการปวดหลังเรื้อรังที่เกิดจากการนั่งทำงานนานๆ ที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว ยังมีโรคจากการทำงานอีกมากมายที่ควรระวัง:

1. กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome): อาการนี้ครอบคลุมปัญหาที่เกิดจากการนั่งทำงานในท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเมื่อยตามคอ บ่า ไหล่ แขน ข้อมือ นิ้วมือ รวมถึงอาการปวดศีรษะและสายตาพร่ามัว สาเหตุหลักมาจากท่าทางที่ไม่เหมาะสม การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เอื้อต่อสรีระ และการขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ

2. กลุ่มอาการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome): โรคนี้เกิดจากการกดทับเส้นประสาทมีเดียนที่บริเวณข้อมือ ทำให้เกิดอาการชา เจ็บ หรือปวดบริเวณนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และบางส่วนของนิ้วนาง มักพบในผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้ข้อมือซ้ำๆ เป็นเวลานาน เช่น พนักงานคีย์ข้อมูล หรือช่างฝีมือต่างๆ

3. ปัญหาเกี่ยวกับสายตา: การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง แสบตา หรือมองเห็นไม่ชัดเจน นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอยังอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับอีกด้วย

4. โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร: ความเครียดจากการทำงาน การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และการขาดการออกกำลังกาย อาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน หรือท้องผูก

5. ปัญหาทางด้านจิตใจ: ความเครียด ความกดดัน และภาระงานที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือหมดไฟในการทำงาน

การป้องกันและดูแลรักษา:

• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: ปรับปรุงท่าทางการนั่ง ยืน หรือเดินให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ พักผ่อนสายตาเป็นระยะๆ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายระหว่างวัน
• จัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน: จัดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับสรีระและลักษณะงาน
• ออกกำลังกาย: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ลดความเครียด และเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
• พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
• ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

การตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคจากการทำงาน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้เหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถรักษาสุขภาพที่ดีและมีความสุขในการทำงานได้อย่างยั่งยืน อย่าปล่อยให้การทำงานมาทำร้ายสุขภาพของเรา เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตการทำงานที่มีคุณภาพและยืนยาว