โรคภูมิแพ้มีกี่ประเภท

ภูมิแพ้: มหันตภัยเงียบที่ซ่อนอยู่รอบตัว และประเภทของมันที่คุณควรรู้จัก

โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารที่ไม่เป็นอันตรายในสภาพแวดล้อมรอบตัวเรามากเกินไป สารเหล่านี้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่ละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น ขนสัตว์ ไปจนถึงอาหารบางชนิด ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่เล็กน้อย เช่น อาการคัน หรือน้ำมูกไหล ไปจนถึงรุนแรงถึงชีวิต เช่น อาการช็อก หรือการหายใจลำบาก

ถึงแม้ว่าอาการของโรคภูมิแพ้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้และความรุนแรงของปฏิกิริยา แต่โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งโรคภูมิแพ้ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:

1. โรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล: ภูมิแพ้ชนิดนี้มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเฉพาะของปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พืชต่างๆ ปล่อยละอองเกสรออกมาเป็นจำนวนมาก ละอองเกสรเหล่านี้ลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อสูดดมเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการคันตา น้ำมูกไหล จาม คัดจมูก และในบางรายอาจมีอาการไอ หรือหอบหืดร่วมด้วย ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาลมักจะทราบดีว่าตนเองแพ้ละอองเกสรชนิดใด และสามารถเตรียมตัวรับมือกับอาการแพ้ล่วงหน้าได้ เช่น หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในช่วงเวลาที่มีละอองเกสรหนาแน่น หรือรับประทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการ

2. โรคภูมิแพ้ตลอดปี: แตกต่างจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล ภูมิแพ้ชนิดนี้เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ตาม สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยในกลุ่มนี้ ได้แก่ ไรฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง เชื้อรา และแมลงสาบ ไรฝุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในฝุ่นภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่นอน หมอน และพรม ขนสัตว์เลี้ยงก็เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือห้องใต้ดิน ส่วนแมลงสาบก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ อาการของภูมิแพ้ตลอดปีมักคล้ายกับภูมิแพ้ตามฤดูกาล แต่ความแตกต่างคืออาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า

3. โรคภูมิแพ้อาหาร: ภูมิแพ้ชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อร่างกายตอบสนองต่ออาหารบางชนิดอย่างรุนแรง อาหารที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ นมวัว ไข่ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง แป้งสาลี ปลา และสัตว์ทะเลเปลือกแข็ง อาการของภูมิแพ้อาหารอาจมีตั้งแต่เล็กน้อย เช่น ผื่นคัน หรือลมพิษ ไปจนถึงรุนแรงถึงชีวิต เช่น อาการช็อก หรือการหายใจลำบาก ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อาหารจะต้องระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารที่ตนเองแพ้ นอกจากนี้ ควรพกยาแก้แพ้ หรือยาฉีดอะดรีนาลินติดตัวไว้เสมอ เผื่อในกรณีที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของโรคภูมิแพ้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถสังเกตอาการที่เกิดขึ้นกับตนเอง หรือคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง และสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมได้ การจัดการกับโรคภูมิแพ้อย่างถูกต้องจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้