โรคแทรกซ้อนจากเบาหวานมีอะไรบ้าง

เงาแห่งเบาหวาน: โรคแทรกซ้อนที่มองข้ามไม่ได้

โรคเบาหวาน ไม่ใช่เพียงแค่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเท่านั้น แต่เป็นโรคเรื้อรังที่ค่อยๆกัดกร่อนร่างกาย หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย และลดคุณภาพชีวิตลงอย่างมาก วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดได้ตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมโรคอย่างจริงจัง

1. ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท (Diabetic Neuropathy): เบาหวานทำลายเส้นประสาทได้ทั้งระบบประสาทส่วนปลาย ระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ มากมาย เช่น

• โรคเส้นประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด ทำให้เกิดอาการชา ปวดแสบร้อน รู้สึกเหมือนเข็มทิ่มแทง อ่อนแรง และรู้สึกผิดปกติ ที่มือ เท้า และแขนขา อาการอาจรุนแรงจนเดินลำบาก หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ยากขึ้น

• โรคเส้นประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Neuropathy): ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ กระเพาะอาหาร ลำไส้ และกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้เกิดอาการใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ

• โรคเส้นประสาทตา (Diabetic Retinopathy): ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำลายเส้นเลือดฝอยในเรตินา ทำให้เกิดการบวม การรั่วไหลของเลือด และการเจริญเติบโตของหลอดเลือดผิดปกติ อาจนำไปสู่การมองเห็นลดลง หรือตาบอดได้

2. ภาวะแทรกซ้อนทางระบบไหลเวียนโลหิต (Diabetic Vascular Disease): เบาหวานเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะ

• โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease): การสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ลดการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงหัวใจ อาจนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวาย

• โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): การอุดตันหรือการแตกของหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้เกิดอัมพาต พูดลำบาก หรือเสียชีวิตได้

• โรคไต (Diabetic Nephropathy): ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำลายไต ทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ต้องล้างไต หรือปลูกถ่ายไต

3. ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ:

• แผลเรื้อรัง (Diabetic Foot Ulcers): การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี และความไวต่อการติดเชื้อที่ลดลง ทำให้แผลเล็กๆ ที่เท้า หายยาก อาจลุกลามจนต้องตัดนิ้วเท้า หรือขา ได้

• การติดเชื้อ: ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

• ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance): ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน อย่ามองข้ามเงาแห่งเบาหวาน เพราะการเตรียมพร้อมและการดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่มีคุณภาพ และยืนยาวได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล