ไข้หวัดธรรมดาอาการเป็นยังไง

ไข้หวัดธรรมดา: อาการและแนวทางบรรเทา

ไข้หวัดธรรมดาเป็นการติดเชื้อไวรัสที่พบได้ทั่วไป ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว อาการของไข้หวัดธรรมดาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปมักจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ จาม และปวดเมื่อยตามร่างกายเล็กน้อย บางครั้งอาจมีไข้ต่ำๆ ร่วมด้วย

อาการของไข้หวัดธรรมดามักจะปรากฏขึ้นภายใน 1-3 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส และสามารถคงอยู่ได้นาน 7-10 วัน อาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

อาการของไข้หวัดธรรมดาโดยละเอียด

• คัดจมูก: เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาจรู้สึกแน่นหรืออุดตันที่จมูก ทำให้หายใจลำบาก
• น้ำมูกไหล: น้ำมูกอาจมีลักษณะใสหรือข้น และอาจมีสีเหลืองหรือเขียวเมื่อเชื้อแบคทีเรียเข้ามาแทรกซ้อน
• เจ็บคอ: อาจรู้สึกแสบหรือคันที่คอเนื่องจากการอักเสบของเยื่อบุคอ
• ไอ: อาจเป็นไอแห้งหรือไอมีเสมหะ ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายพยายามขับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคออกจากระบบทางเดินหายใจ
• จาม: เป็นการตอบสนองของร่างกายเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกจากโพรงจมูก
• ปวดเมื่อยตามร่างกาย: อาจรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือปวดหัวเล็กน้อย
• ไข้ต่ำ: มักไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ

การบรรเทาอาการไข้หวัดธรรมดา

ถึงแม้ว่าไข้หวัดธรรมดาไม่มีวิธีรักษาที่จำเพาะเจาะจง แต่มีแนวทางการดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอาการได้ ดังนี้

• พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงและฟื้นฟูร่างกาย
• ดื่มน้ำมากๆ: น้ำช่วยให้เยื่อบุโพรงจมูกชุ่มชื้น ลดอาการคัดจมูกและเจ็บคอ
• ใช้น้ำเกลือล้างจมูก: ช่วยขจัดสิ่งอุดตันและลดอาการคัดจมูก
• รับประทานยาพาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน: ยาเหล่านี้ช่วยลดไข้และบรรเทาอาการปวดเมื่อย
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และมลพิษ: สารระคายเคืองเหล่านี้อาจทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจระคายเคืองมากขึ้น
• ใช้เครื่องทำความชื้น: อากาศชื้นช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและเจ็บคอ

เมื่อใดที่ควรพบแพทย์

หากอาการไข้หวัดธรรมดาของคุณรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นหลังจาก 10 วัน หรือมีอาการต่อไปนี้อาจจำเป็นต้องพบแพทย์

• ไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานกว่า 2 วัน
• หายใจลำบาก
• เจ็บหน้าอก
• ไอมีเลือดปน
• อาเจียนหรือท้องเสียอย่างรุนแรง

การป้องกันไข้หวัดธรรมดา

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้หวัดธรรมดาคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อไวรัส มาตรการต่อไปนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ:

• ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ไอหรือจาม
• ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม
• ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่อาจมีเชื้อโรค เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ และโทรศัพท์
• หลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำหรือผ้าขนหนู
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน