Dengue fever กับ Dengue Hemorrhagic Fever ต่างกันอย่างไร

1 การดู

ไข้เดงกีอาจรุนแรงถึงขั้นไข้เลือดออก หากมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ร่วมกับมีเลือดออก เช่น เลือดกำเดาไหล จุดเลือดออกตามผิวหนัง และมีอาการตับโต หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้เดงกี vs. ไข้เลือดออกเดงกี: รู้ทันความต่าง ป้องกันภัยร้ายใกล้ตัว

ไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกี ล้วนเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค แต่ระดับความรุนแรงและอาการแสดงแตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้เราสังเกตอาการผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

ไข้เดงกี: จุดเริ่มต้นที่ต้องจับตา

ไข้เดงกีมักเริ่มต้นด้วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่มีลักษณะเด่นคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและเบ้าตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูกอย่างมาก จนบางครั้งถูกเรียกว่า “ไข้ปวดกระดูก” นอกจากนี้ อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และมีผื่นแดงขึ้นตามตัว

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยไข้เดงกีส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไข้เดงกีสามารถพัฒนาไปเป็นไข้เลือดออกเดงกีได้

ไข้เลือดออกเดงกี: ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง

ไข้เลือดออกเดงกีเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าไข้เดงกี มีลักษณะเด่นคือ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกง่ายกว่าปกติ ร่วมกับภาวะหลอดเลือดรั่ว ทำให้พลาสมา (ส่วนประกอบของเลือด) รั่วซึมออกจากหลอดเลือดไปสู่เนื้อเยื่อรอบข้าง

อาการของไข้เลือดออกเดงกีจะคล้ายกับไข้เดงกีในช่วงแรก แต่หลังจากไข้เริ่มลดลง อาการจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยอาจมีอาการต่อไปนี้:

  • เลือดออก: เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน จุดเลือดออกตามผิวหนัง (petichiae) เลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรืออาเจียนเป็นเลือด
  • ปวดท้องรุนแรง: โดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวา เนื่องจากตับโตและมีการอักเสบ
  • อาการช็อก: ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ มือเท้าเย็น ซีด กระสับกระส่าย หมดสติ

ความแตกต่างที่สำคัญ: ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและการรั่วของหลอดเลือด

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกีคือ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและการรั่วของหลอดเลือด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของไข้เลือดออกเดงกี

  • เกล็ดเลือดต่ำ: ทำให้เลือดแข็งตัวได้ยาก จึงมีเลือดออกง่าย
  • การรั่วของหลอดเลือด: ทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ และอาจนำไปสู่ภาวะช็อก

เมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์ทันที?

หากคุณมีอาการของไข้เดงกี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที:

  • ไข้สูงเฉียบพลัน
  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูกอย่างมาก
  • เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  • เลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน จุดเลือดออกตามผิวหนัง
  • ปวดท้องรุนแรง
  • อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
  • อาการซึมลง กระสับกระส่าย

การป้องกัน: หนทางที่ดีที่สุด

การป้องกันไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกีที่ดีที่สุดคือการควบคุมยุงลายพาหะนำโรค โดย:

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น น้ำขังในภาชนะต่างๆ
  • ใส่ทรายอะเบทในภาชนะเก็บน้ำ
  • สวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาว
  • ใช้ยาทากันยุง
  • นอนในมุ้ง

การตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกี การสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และการป้องกันยุงลายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้