EGFR ต่ำจะเกิดอะไรขึ้น

12 การดู

ค่า eGFR ต่ำกว่า 15 หมายความว่าไตทำงานได้น้อยกว่า 15% ถือเป็นภาวะไตวายขั้นรุนแรงที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ อาจต้องได้รับการฟอกเลือดหรือปลูกถ่ายไต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

eGFR ต่ำ: เมื่อไตอ่อนแอลง ภัยเงียบที่ต้องใส่ใจ

ไตของเรา เปรียบเสมือนโรงงานกำจัดของเสียขนาดใหญ่ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง คอยกรองสารพิษและของเสียออกจากเลือด รักษาปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายให้สมดุล และผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายอีกหลายอย่าง การทำงานของไตจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเราอย่างยิ่ง

eGFR คืออะไร และทำไมค่าต่ำจึงน่ากังวล?

eGFR หรือ Estimated Glomerular Filtration Rate คือค่าประมาณอัตราการกรองของเสียของไต เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของการทำงานของไต ยิ่งค่า eGFR สูง แสดงว่าไตทำงานได้ดี แต่หากค่า eGFR ต่ำลง นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพในการกรองของไตลดลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคไตเรื้อรัง

เมื่อ eGFR ต่ำ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย?

เมื่อไตทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ของเสียและสารพิษจะสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบต่างๆ ดังนี้

  • ความดันโลหิตสูง: ไตมีบทบาทในการควบคุมความดันโลหิต เมื่อไตทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • บวม: ไตไม่สามารถกำจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้ ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณขา ข้อเท้า และใบหน้า

  • โลหิตจาง: ไตผลิตฮอร์โมน Erythropoietin (EPO) ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อไตเสื่อมสภาพ การผลิต EPO จะลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง ทำให้รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย และหายใจถี่

  • กระดูกอ่อนแอ: ไตมีบทบาทในการควบคุมระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย เมื่อไตทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุเหล่านี้ ทำให้กระดูกอ่อนแอและเสี่ยงต่อการแตกหัก

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: ของเสียที่สะสมในร่างกายอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

  • เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน: ของเสียในเลือดอาจทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ และอาเจียน

  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท: ของเสียที่สะสมในสมองอาจทำให้เกิดปัญหาด้านสมาธิ ความจำ และการนอนหลับ ในกรณีรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการชัก

eGFR ต่ำกว่า 15: ภาวะไตวายระยะสุดท้าย

ตามที่คุณกล่าว ค่า eGFR ที่ต่ำกว่า 15 หมายความว่าไตทำงานได้น้อยกว่า 15% ถือเป็นภาวะไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการฟอกเลือด (Dialysis) หรือการปลูกถ่ายไต (Kidney Transplant) เพื่อทดแทนการทำงานของไตที่สูญเสียไป

  • การฟอกเลือด: เป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องจักรภายนอกร่างกายเพื่อกรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือด
  • การปลูกถ่ายไต: คือการผ่าตัดนำไตจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้ว หรือจากผู้บริจาคที่มีชีวิตอยู่ มาปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย

ทำอย่างไรเมื่อทราบว่า eGFR ต่ำ?

หากคุณทราบว่าค่า eGFR ของคุณต่ำ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต (Nephrologist) เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การรักษาอาจรวมถึงการควบคุมความดันโลหิต การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และการใช้ยาเพื่อชะลอการเสื่อมของไต

การป้องกันดีกว่าการรักษา

ถึงแม้ว่าโรคไตเรื้อรังอาจไม่มีอาการในระยะแรก แต่เราสามารถดูแลสุขภาพไตของเราได้ด้วยการ:

  • ควบคุมโรคประจำตัว: หากคุณเป็นโรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ควรควบคุมโรคให้อยู่ในระดับปกติ
  • หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs: การใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อไต
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติของไตได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

การดูแลสุขภาพไตของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไตทำหน้าที่สำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย หากไตอ่อนแอลง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเราอย่างมาก การตระหนักถึงความสำคัญของ eGFR และการดูแลสุขภาพไต จึงเป็นกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีและยืนยาว