คนน้ำตาลตกควรกินอะไร

8 การดู

เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้ลองอมลูกอม 2 เม็ด หรือทานน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา หากอาการไม่ดีขึ้น ทานน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม 3 ช้อนชา หากยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำตาลตก กินอะไรดี? แก้อาการอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผล

อาการน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือที่เรียกกันว่า “น้ำตาลตก” เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ใจสั่น เหงื่อออก วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย สับสน และในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้ การรับรู้ถึงอาการและการจัดการอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อรู้สึกว่าน้ำตาลตก ควรทำอย่างไร?

หลักการสำคัญคือการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็วแต่ปลอดภัย โดยเน้นอาหารที่มีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย และควรเลือกปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป

ขั้นตอนการรับมือกับอาการน้ำตาลตก:

  1. ระยะเริ่มต้น (อาการเบา): หากเริ่มรู้สึกมีอาการเบื้องต้น เช่น ใจสั่นเล็กน้อย เหงื่อออก ควรเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว เช่น

    • น้ำผลไม้ 1 กล่อง (ขนาดเล็ก ประมาณ 125 มล.) เลือกน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำน้ำหรือมีปริมาณน้ำตาลน้อยเกินไป ตรวจสอบฉลากโภชนาการประกอบการตัดสินใจ
    • ลูกอม 3-4 เม็ด (ชนิดแข็ง) ควรเป็นลูกอมที่ละลายช้าในปากเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ดูดซึมน้ำตาล
    • นมจืด 1 กล่อง (ขนาดเล็ก ประมาณ 125 มล.) นอกจากน้ำตาลแล้วยังมีโปรตีนที่ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้นานขึ้น
  2. ระยะปานกลาง (อาการชัดลง): หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 10-15 นาที หรืออาการเริ่มรุนแรงขึ้น เช่น วิงเวียนศีรษะ สับสน ควรเพิ่มปริมาณน้ำตาลที่ได้รับ เช่น

    • แซนวิชทูน่า หรือแซนวิชไข่ การเพิ่มโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้นานขึ้น
    • กล้วยหอมสุก 1 ลูก กล้วยหอมมีน้ำตาลธรรมชาติและยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  3. ระยะรุนแรง (หมดสติหรือชัก): หากผู้ป่วยหมดสติหรือมีอาการชัก ห้าม ป้อนอาหารหรือน้ำทางปากโดยเด็ดขาด ให้รีบโทรเรียกรถพยาบาลหรือนำส่งโรงพยาบาลทันที ญาติหรือผู้ดูแลสามารถฉีดกลูคากอน (ตามคำแนะนำของแพทย์) หากได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ควรพกอาหารที่มีน้ำตาลติดตัวไว้เสมอ เช่น ลูกอม น้ำผลไม้กล่องเล็ก
  • หมั่นตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะท้องว่าง เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว

การดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอและการรับมือกับอาการน้ำตาลตกอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้.